กทม.โต้เปล่าวางยา กบอ.ชี้ เหตุทดลองระบายน้ำฝั่งตะวันตกก่อน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของระบบและเครื่องมือ อ้างเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.โดยตรง
จากกรณีที่ นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) หรือ สสนก.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ของรัฐบาล ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานภายใต้แผนปฏิบัติการทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ไม่ได้รับแจ้งแผนจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถึงการซ้อมระบายน้ำฝั่งตะวันตกของ กทม.ก่อนที่ กบอ.จะทดสอบทำให้ประชาชนเกิดความสับสนนั้น
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การออกมาให้ข่าวลักษณะกล่าวหา กทม.ว่า ดำเนินการโดยพลการ หรือลักไก่ ทำโดยคนที่เป็นกรรมการ กบอ.ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้แก่ กทม.อย่างมาก ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.ได้ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานมาโดยตลอดในการบูรณาการความร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยเฉพาะกับทางรัฐบาล และกทม.ขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า การดำเนินการซ้อมเปิด-ปิดประตูระบายน้ำตลอดจนทดสอบเดินเครื่องผลักดันน้ำบริเวณคลองทวีวัฒนา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความพร้อมของระบบและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีการทดสอบตามแผนของ กบอ.ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ กทม.และเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.โดยตรงอีกทั้งยังถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะได้ให้ความร่วมมือ กบอ.และรัฐบาลอย่างเต็มที่หรือเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ แผนการดำเนินการของทาง กบอ.ตามที่รัฐบาลได้ประสานส่งมาก็ไม่ได้กำหนดหรือระบุให้ กทม.ต้องแจ้งข้อมูลรายละเอียดในส่วนนี้เข้าไปก่อนแต่อย่างใด ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ไม่สามารถกล่าวหาว่า กทม.ทำอะไรโดยพลการหรือนอกเหนือจากข้อกำหนดที่ให้ไว้ได้
“กรณีนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่ กทม.ในฐานะหน่วยงานที่ทำเรื่องน้ำท่วมมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีต้องถูกลดระดับความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนแล้ว ยังทำลายขวัญและกำลังใจของบรรดาข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ของ กทม.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดผลดีต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเต็มที่ด้วย ไม่ว่าผู้พูดจะเป็นใครก็ตามแต่หลังจากนี้ กทม.ขอเรียกร้องว่า ให้ระมัดระวังอย่าพูดจาพล่อยๆ เพื่อทำให้ตัวเองหรือเจ้านายได้เครดิตไปคนเดียวโดยไม่สนใจผู้อื่นว่าจะเป็นอย่างไรแบบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทั้งนี้ ผู้พูดจำเป็นต้องรับผิดชอบคำพูดที่ตัวเองได้พูดออกมาทุกคำด้วย เพราะมันอาจเป็นการทำลายความร่วมมือในอนาคตได้เช่นกัน และขอให้อย่าคิดสรุปไปเองว่าตนเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียวถ้าหากใครเสนอแย้งต้องถูกประณามอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา” นายวสันต์ กล่าว
จากกรณีที่ นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) หรือ สสนก.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ของรัฐบาล ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานภายใต้แผนปฏิบัติการทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ไม่ได้รับแจ้งแผนจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถึงการซ้อมระบายน้ำฝั่งตะวันตกของ กทม.ก่อนที่ กบอ.จะทดสอบทำให้ประชาชนเกิดความสับสนนั้น
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การออกมาให้ข่าวลักษณะกล่าวหา กทม.ว่า ดำเนินการโดยพลการ หรือลักไก่ ทำโดยคนที่เป็นกรรมการ กบอ.ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้แก่ กทม.อย่างมาก ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.ได้ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานมาโดยตลอดในการบูรณาการความร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยเฉพาะกับทางรัฐบาล และกทม.ขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า การดำเนินการซ้อมเปิด-ปิดประตูระบายน้ำตลอดจนทดสอบเดินเครื่องผลักดันน้ำบริเวณคลองทวีวัฒนา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความพร้อมของระบบและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีการทดสอบตามแผนของ กบอ.ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ กทม.และเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.โดยตรงอีกทั้งยังถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะได้ให้ความร่วมมือ กบอ.และรัฐบาลอย่างเต็มที่หรือเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ แผนการดำเนินการของทาง กบอ.ตามที่รัฐบาลได้ประสานส่งมาก็ไม่ได้กำหนดหรือระบุให้ กทม.ต้องแจ้งข้อมูลรายละเอียดในส่วนนี้เข้าไปก่อนแต่อย่างใด ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ไม่สามารถกล่าวหาว่า กทม.ทำอะไรโดยพลการหรือนอกเหนือจากข้อกำหนดที่ให้ไว้ได้
“กรณีนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่ กทม.ในฐานะหน่วยงานที่ทำเรื่องน้ำท่วมมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีต้องถูกลดระดับความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนแล้ว ยังทำลายขวัญและกำลังใจของบรรดาข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ของ กทม.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดผลดีต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเต็มที่ด้วย ไม่ว่าผู้พูดจะเป็นใครก็ตามแต่หลังจากนี้ กทม.ขอเรียกร้องว่า ให้ระมัดระวังอย่าพูดจาพล่อยๆ เพื่อทำให้ตัวเองหรือเจ้านายได้เครดิตไปคนเดียวโดยไม่สนใจผู้อื่นว่าจะเป็นอย่างไรแบบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทั้งนี้ ผู้พูดจำเป็นต้องรับผิดชอบคำพูดที่ตัวเองได้พูดออกมาทุกคำด้วย เพราะมันอาจเป็นการทำลายความร่วมมือในอนาคตได้เช่นกัน และขอให้อย่าคิดสรุปไปเองว่าตนเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียวถ้าหากใครเสนอแย้งต้องถูกประณามอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา” นายวสันต์ กล่าว
