หน่วยกู้ภัยบังกลาเทศถอดใจ นำเครนเข้าเคลียร์พื้นที่ ระบุไม่มีแนวโน้มเหลือผู้รอดชีวิตในซากตึกที่ถล่มตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเกิดไฟไหม้ขณะพยายามช่วยคนงานหญิงที่เชื่อว่า เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายซึ่งทนรอความช่วยเหลืออย่างทรหดเป็นเวลานาน 110 ชั่วโมง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในวันจันทร์ (28) หน่วยกู้ภัยบังกลาเทศเริ่มนำรถเครนเข้าไปยกชิ้นคอนกรีตขนาดยักษ์ออกจากซากอาคารรานา พลาซา ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งโรงงานสิ่งทอหลายแห่ง โดยยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันล่าสุดอยู่ที่ 382 ราย และสูญหายอีกนับร้อย ส่วนใหญ่เป็นคนงานหญิงที่เชื่อว่า ติดอยู่ในซากตึกที่ถล่มลงมาตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (24)
“เราให้ความสำคัญสูงสุดในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต แต่ตอนนี้มีความหวังน้อยมาก” ชาฮินัล อิสลาม โฆษกกองทัพกล่าว
การปฏิบัติการกู้ภัยเท่าที่ผ่านมาสามารถช่วยผู้ประสบเหตุออกมาได้ 2,500 คน ทว่า ช่วงคืนวันอาทิตย์ (28) ประกายไฟจากอุปกรณ์ตัดโลหะของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำให้เกิดไฟไหม้ซากอาคารขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือช่วยคนงานหญิงคนหนึ่งที่เชื่อว่า เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย
สถานีโทรทัศน์บังกลาเทศถ่ายทอดบทสัมภาษณ์พนักงานดับเพลิง ซึ่งต่างร่ำไห้เมื่อรู้ว่าไม่อาจช่วยชีวิตหญิงคนงานนาม ชาห์นาซ คุณแม่ลูกหนึ่งซึ่งคิดอยู่ในซากอาคารมานานถึง 5 วัน โดยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธอได้รับยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในเหตุหายนะครั้งนี้
ทั้งนี้ คาดว่าจะยังมีศพคนงานถูกพบเพิ่มเติมอีก หลังจากที่หน่วยกู้ภัยหันไปใช้อุปกรณ์ขนาดหนักอย่างเช่น เครน เพื่อยกแผ่นหิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ใช้วิถีเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังด้วยมือเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใน
ในวันจันทร์ (28) หน่วยกู้ภัยบังกลาเทศเริ่มนำรถเครนเข้าไปยกชิ้นคอนกรีตขนาดยักษ์ออกจากซากอาคารรานา พลาซา ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งโรงงานสิ่งทอหลายแห่ง โดยยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันล่าสุดอยู่ที่ 382 ราย และสูญหายอีกนับร้อย ส่วนใหญ่เป็นคนงานหญิงที่เชื่อว่า ติดอยู่ในซากตึกที่ถล่มลงมาตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (24)
“เราให้ความสำคัญสูงสุดในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต แต่ตอนนี้มีความหวังน้อยมาก” ชาฮินัล อิสลาม โฆษกกองทัพกล่าว
การปฏิบัติการกู้ภัยเท่าที่ผ่านมาสามารถช่วยผู้ประสบเหตุออกมาได้ 2,500 คน ทว่า ช่วงคืนวันอาทิตย์ (28) ประกายไฟจากอุปกรณ์ตัดโลหะของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำให้เกิดไฟไหม้ซากอาคารขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือช่วยคนงานหญิงคนหนึ่งที่เชื่อว่า เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย
สถานีโทรทัศน์บังกลาเทศถ่ายทอดบทสัมภาษณ์พนักงานดับเพลิง ซึ่งต่างร่ำไห้เมื่อรู้ว่าไม่อาจช่วยชีวิตหญิงคนงานนาม ชาห์นาซ คุณแม่ลูกหนึ่งซึ่งคิดอยู่ในซากอาคารมานานถึง 5 วัน โดยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธอได้รับยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในเหตุหายนะครั้งนี้
ทั้งนี้ คาดว่าจะยังมีศพคนงานถูกพบเพิ่มเติมอีก หลังจากที่หน่วยกู้ภัยหันไปใช้อุปกรณ์ขนาดหนักอย่างเช่น เครน เพื่อยกแผ่นหิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ใช้วิถีเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังด้วยมือเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใน