เอเจนซีส์ - เพลิงไหม้บริเวณซากอาคารโรงงานเสื้อผ้าของบังกลาเทศซึ่งพังถล่มลงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คร่าชีวิตหญิงคนงานผู้รอดชีวิตรายสุดท้ายซึ่งทนรอความช่วยเหลืออย่างทรหดมานานถึง 110 ชั่วโมง เมื่อวานนี้ (28) หัวหน้าหน่วยดับเพลิงแถลง
สถานีโทรทัศน์บังกลาเทศถ่ายทอดบทสัมภาษณ์พนักงานดับเพลิง ซึ่งต่างร่ำไห้เมื่อรู้ว่าไม่อาจช่วยชีวิตหญิงคนงานนาม ชาห์นาซ คุณแม่ลูกหนึ่งซึ่งคิดอยู่ในซากอาคารมานานถึง 5 วัน โดยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธอได้รับยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในเหตุหายนะครั้งนี้
“เกิดไฟไหม้ขึ้นระหว่างที่เรากำลังตัดคานเพื่อช่วยชีวิตหญิงคนงานรายนี้ ซึ่งเราคาดว่าน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ยังรอดชีวิตอยู่ ถึงเราจะดับไฟลงได้ แต่ปรากฎว่าเธอเสียชีวิตแล้ว” อาเหม็ด อาลี ให้สัมภาษณ์
“เธอเป็นหญิงใจกล้าที่ยืนหยัดสู้จนวาระสุดท้าย วันนี้เราทำงานกันตลอด 10-11 ชั่วโมงก็เพื่อจะช่วยเธอออกมา เราพยายามทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่สำเร็จ”
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากไฟซึ่งถูกดับลงในไม่กี่นาที ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิง ซิฮาดุล อิสลาม ให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้ คาดว่าจะยังมีศพคนงานถูกพบเพิ่มเติมอีก หลังจากที่หน่วยกู้ภัยหันไปใช้อุปกรณ์ตักดินเพื่อยกแผ่นหิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ใช้วิถีเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังด้วยมือเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใน
อาบุล คาเยอร์ พนักงานดับเพลิงซึ่งพยายามพูดคุยกับ ชาห์นาซ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือเธอ เล่าว่า เธอมีบุตรชายวัย 18 เดือนอยู่คนหนึ่ง
“เธอเป็นห่วงลูกชายมาก... เธอพูดกับผมว่า ผมเป็นพี่ชายของเธอ โปรดอย่าทิ้งเธอไว้ที่นั่น”
ตำรวจบังกลาเทศจับกุม โซเฮล รานา เศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของอาคาร รานา พลาซา ที่ทรุดตัวลงมาทั้งหลังเมื่อเช้าวันพุธที่แล้ว (24) ขณะที่เจ้าตัวพยายามหลบหนีข้ามแดนไปยังอินเดีย ซึ่งเมื่อคนงานตัดเย็บเสื้อผ้าและญาติผู้เสียชีวิตทราบข่าวต่างก็ตะโกนเรียกร้องให้ “แขวนคอ” ชายซึ่งพวกเขาตราหน้าว่าเป็นฆาตกร
อาคารสูง 8 ชั้นหลังนี้ฝ่าฝืนระเบียบการก่อสร้างอาคาร เช่นเดียวกับสิ่งปลูกสร้างอื่นๆอีกหลายแห่งในเมืองหลวงบังกลาเทศ
เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (28) ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 381 ราย