วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ นำนายประเสริฐ อชินีทองคำ ข้าราชการครู โรงเรียนบ้านบางกะปิ และบุตร ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความอนุเคราะห์ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พิจารณาคืนค่ารักษาในส่วนที่ขาดให้กับครอบครัวช่วย นางสุภัคคินี อชินีทองคำ อายุ 53 ปี ภรรยา ที่ประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นผู้พิการ ได้รับสิทธิผู้พิการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 500 บาทต่อเดือน นับตั้งแต่วันพิการ รวมถึงให้บุตรทั้ง 2 ของตนเองได้รับทุนการศึกษาเล่าเรียน
สืบเนื่องจากภรรยาประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์เฉี่ยวชน แต่ทางโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธในการให้ใช้สิทธิ์ฉุกเฉิน และแจ้งว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการกับทาง สปสช. ขณะเดียวกันเนื่องด้วยอาการของภรรยาสาหัสมาก มีเลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดด่วน จึงได้เซ็นยินยอมว่า ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย โดยมีการผ่าตัด 2 ครั้ง ใช้เงินหลังได้รับส่วนลดแล้วทั้งสิ้น 459,905 บาท ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ทางครอบครัวกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจึงทำเรื่องส่งตัวภรรยาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตนกู้เงินเพื่อมาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับทางโรงพยาบาล ขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
น.พ.ทศพร กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณา และย้ำว่านโยบายรักษาพยาบาลโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของรัฐบาลมีการดำเนินการอย่างครอบคลุม แต่ยอมรับว่าอาจจะมีติดขัดในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ จึงจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป
สืบเนื่องจากภรรยาประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์เฉี่ยวชน แต่ทางโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธในการให้ใช้สิทธิ์ฉุกเฉิน และแจ้งว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการกับทาง สปสช. ขณะเดียวกันเนื่องด้วยอาการของภรรยาสาหัสมาก มีเลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดด่วน จึงได้เซ็นยินยอมว่า ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย โดยมีการผ่าตัด 2 ครั้ง ใช้เงินหลังได้รับส่วนลดแล้วทั้งสิ้น 459,905 บาท ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ทางครอบครัวกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจึงทำเรื่องส่งตัวภรรยาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตนกู้เงินเพื่อมาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับทางโรงพยาบาล ขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
น.พ.ทศพร กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณา และย้ำว่านโยบายรักษาพยาบาลโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของรัฐบาลมีการดำเนินการอย่างครอบคลุม แต่ยอมรับว่าอาจจะมีติดขัดในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ จึงจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป