นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ในฐานะวิสาหกิจ กทม. จะดำเนินการแก้ปัญหาคอขวดที่สถานีสะพานตากสินของรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ปัจจุบันวิ่งรางเดี่ยว และมีปัญหาการจัดการจราจรของรถไฟฟ้า จึงต้องปรับปรุงรางวิ่งเป็นรางคู่ เพื่อจัดการจราจรให้คล่องตัว ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปจะต้องทุบสถานีสะพานตากสินเพื่อก่อสร้างสะพานทางเดินยกระดับ หรือสกายวอล์ก พร้อมทางเดินเลื่อนอัตโนมัติแทน ตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสุรศักดิ์ ไปยังสถานีสะพานตากสิน ระยะทาง 700 เมตร พร้อมติดตั้งทางขึ้น-ลงตลอดระยะทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ซึ่งในสิ้นเดือนเมษายนนี้ กทม.จะประกาศร่างทีโออาร์โครงการปรับปรุงดังกล่าวด้วยงบประมาณ 660 ล้านบาท แบ่งเป็นการทุบสถานีตากสิน 60 ล้านบาท และการสร้างสกายวอล์กและทางเดินเลื่อน 600 ล้านบาท
ส่วนรูปแบบสกายวอล์ก ได้ออกแบบให้ทางเดินเลื่อนมีระยะทางยาวขึ้นกว่ารูปแบบเดิม เป็นทางเดินเลื่อนต่อเนื่อง 3 จุด คล้ายทางเดินเลื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่มีรูปลักษณ์ทันสมัยมากขึ้น เพราะบริเวณสถานีดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งสกายวอล์กจะเป็นรูปแบบที่ประกอบไว้แล้วพร้อมนำมาติดตั้งที่สถานีได้เลย ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย อีกทั้งจะมีการสร้างทางขึ้น-ลงสถานี 6 จุด ส่วนใต้ทางเดินจะมีช่องเก็บสายสัญญาณต่างๆ อาทิ สายไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อความเป็นระเบียบและสวยงาม
ส่วนรูปแบบสกายวอล์ก ได้ออกแบบให้ทางเดินเลื่อนมีระยะทางยาวขึ้นกว่ารูปแบบเดิม เป็นทางเดินเลื่อนต่อเนื่อง 3 จุด คล้ายทางเดินเลื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่มีรูปลักษณ์ทันสมัยมากขึ้น เพราะบริเวณสถานีดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งสกายวอล์กจะเป็นรูปแบบที่ประกอบไว้แล้วพร้อมนำมาติดตั้งที่สถานีได้เลย ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย อีกทั้งจะมีการสร้างทางขึ้น-ลงสถานี 6 จุด ส่วนใต้ทางเดินจะมีช่องเก็บสายสัญญาณต่างๆ อาทิ สายไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อความเป็นระเบียบและสวยงาม
