นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการตีรวนเรื่องกระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ให้เกิดความสมบูรณ์ กรณียังมีปัญหาเรื่องข้อสรุปเกี่ยวกับเวลาการแปรญัตติ 60 วัน พร้อมระบุว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ต้องรักษากฎระเบียบไม่ใช่ผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผู้เสนอญัตติ เพราะข้อเท็จจริงปฏิเสธไม่ได้ว่า ญัตติมีการเสนอรับรองถูกต้องแล้ว แต่เมื่อประธานขอมติ โดยองค์ประชุมไม่ครบญัตติจึงยังค้างอยู่ ดังนั้นหากประธานรัฐสภาไม่เรียกประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติจะต้องถือว่า มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ซึ่งเข้าข่ายให้สามารถยื่นถอดถอนได้ เพราะการประชุมสภาฯ ต้องมีองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ประธานสรุปข้อยุติของญัตติโดยที่องค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหลังสงกรานต์พรรคฝ่ายค้านคงจะมีความชัดเจน
สำหรับกรณีนี้ มอบหมายให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านติดตามอยู่ ส่วนการทำงานของกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่ายังเดินต่อไปได้ เพราะในส่วนการตั้งกรรมาธิการถูกต้องแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การแปรญัตติ ซึ่งถือว่ายังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน เพราะมีญัตติ 60 วันค้างอยู่ ดังนั้นหากมีการแปรญัตติหลังวันที่ 15 ก็คงเกิดการโต้แย้งตามมา
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านอาจยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งว่า ไม่มีอะไรขัดข้อง แต่ขอยืนว่าได้ทำหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับการประชุมแล้ว เพราะในเมื่อองค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถดำเนินการให้มีการลงมติเลือกกรอบวันแปรญัตติได้ จึงต้องสั่งปิดการประชุม แล้วให้เวลาการแปรญัตติ 15 วัน ตามข้อบังคับประชุมร่วมรัฐสภาข้อที่ 96 และถ้าหากพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่า ต้องการให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาอีกครั้ง เพื่อให้มีการลงมติเลือกกรอบเวลาการแปรญญัติว่าจะเอา 15 วัน หรือ 60 วัน สามารถทำได้ เนื่องจากสมัยการประชุมนี้ ได้มีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม ในวันที่ 20 เมษายน รับรองว่าใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็ดำเนินการเสร็จ
ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ได้มีคำสั่งงดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และมีคำสั่งให้นัดประชุมสภาฯ อีกครั้ง ในวันที่ 18 เมษายน เพื่อพิจารณาระเบียบวาระที่ค้างเดิม แต่จะยังไม่นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ที่กำหนดวันแปรญัตติไว้ 15 วัน และจะครบกำหนดวันที่ 18 เมษายน กลับมาพิจารณาในสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้
สำหรับกรณีนี้ มอบหมายให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านติดตามอยู่ ส่วนการทำงานของกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่ายังเดินต่อไปได้ เพราะในส่วนการตั้งกรรมาธิการถูกต้องแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การแปรญัตติ ซึ่งถือว่ายังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน เพราะมีญัตติ 60 วันค้างอยู่ ดังนั้นหากมีการแปรญัตติหลังวันที่ 15 ก็คงเกิดการโต้แย้งตามมา
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านอาจยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งว่า ไม่มีอะไรขัดข้อง แต่ขอยืนว่าได้ทำหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับการประชุมแล้ว เพราะในเมื่อองค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถดำเนินการให้มีการลงมติเลือกกรอบวันแปรญัตติได้ จึงต้องสั่งปิดการประชุม แล้วให้เวลาการแปรญัตติ 15 วัน ตามข้อบังคับประชุมร่วมรัฐสภาข้อที่ 96 และถ้าหากพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่า ต้องการให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาอีกครั้ง เพื่อให้มีการลงมติเลือกกรอบเวลาการแปรญญัติว่าจะเอา 15 วัน หรือ 60 วัน สามารถทำได้ เนื่องจากสมัยการประชุมนี้ ได้มีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม ในวันที่ 20 เมษายน รับรองว่าใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็ดำเนินการเสร็จ
ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ได้มีคำสั่งงดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และมีคำสั่งให้นัดประชุมสภาฯ อีกครั้ง ในวันที่ 18 เมษายน เพื่อพิจารณาระเบียบวาระที่ค้างเดิม แต่จะยังไม่นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ที่กำหนดวันแปรญัตติไว้ 15 วัน และจะครบกำหนดวันที่ 18 เมษายน กลับมาพิจารณาในสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้
