xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ประชุมคลี่คลายคดีฆ่าแกนนำต้านทิ้งขยะพิษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจภูธรภาค 2 ฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัด รวมถึงชุดสืบสวนของ สถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม ร่วมประชุมติดตามคลี่คลายคดีบุกยิงนายประจบ เนาวโอภาส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้เวลาในการหารือกว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังการหารือ พล.ต.ต.นิวัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อม และความเกี่ยวโยงกันของผู้เสียชีวิตแล้ว เชื่อว่าประเด็นเรื่องเกี่ยวบ่อขยะสารพิษในพื้นที่ ต.หนองแหน ถือว่ามีส่วนสำคัญที่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากที่สุด เพราะมีคดีที่เกี่ยวโยงพันกันอีกหลายคดีตั้งแต่ผู้เสียชีวิตออกมาเคลื่อนไหว ที่มีทั้งการจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าของบ่อ และมีการฟ้องร้องผู้เสียชีวิตในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่ผู้เสียชีวิตระมัดระวังตัวมาโดยตลอด
ส่วนการคลี่คลายคดีนั้น เบื้องต้นได้เบาะแสของรถที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนติดตามไปจนถึงตัวรถที่ใช้ในการกระทำผิดในครั้งนี้แล้ว ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการติดตามหารถ
นอกจากนี้ ยังได้แบ่งแยกหน้าที่ให้กับฝ่ายสืบสวนทั้งหมดไปตรวจสอบเกี่ยวกับรายละเอียดของผู้เสียชีวิตในวันที่เกิดเหตุ เพราะตามภาพวงจรปิดที่ได้นั้น เหตุเกิดขึ้นในเวลา 13.04 น.แต่พบว่า เวลาในกล้องช้ากว่าเวลาจริงไปประมาณ 5 นาที เวลาเกิดเหตุจริงจึงคาดว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 13.10 น.ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยขณะนี้ก็จะไล่หาพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล และพยานวัตถุ เพื่อนำมาประกอบการนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ และจากการสอบถามทั้งลูกและภรรยาของผู้เสียชีวิต ไม่พบประเด็นชู้สาว และการพนัน มีเพียงประเด็นเดียวคือ การต่อต้านบ่อขยะพิษหนองแหนเท่านั้นที่เป็นประเด็นสำคัญ
ส่วนผู้ก่อเหตุที่ลงมือสังหารเชื่อว่า เป็นมือปืนรับจ้าง เพราะตั้งใจมาจอดรถแล้วลงมายิง นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่สืบสวนได้ว่า มีรถเข้ามาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ก่อนหน้านี้นานนับเดือน ทั้งที่บ้าน และที่ไซด์งานของผู้เสียชีวิต ซึ่งรถดังกล่าวมีตำหนิรูปพรรณสี และชนิดเดียวกันกับคันที่เข้ามาก่อเหตุ
สำหรับ นายประจวบ ผู้เสียชีวิตมีประวัติว่า ในปี 2552 เคยเป็นแกนนำต่อต้าน บริษัทรีไซเคิลน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่ง จนถูกบริษัทฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว
นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2555 ที่ผ่านมา นายประจบ และนายจร เนาวโอภาส พี่ชาย พร้อมแกนนำอีกหลายคน ได้ร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน และกลุ่มนายทุนในพื้นที่ ที่ลักลอบนำน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมไปทิ้งในบ่อลูกรังเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จนสร้างผลกระทบกับชาวบ้าน ซึ่งดีเอสไอได้ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังขยายผลจนพบว่า นอกจาก ต.หนองแหนแล้ว ยังมีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมปนเปื้อนสารเคมี ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นบ่อลูกรังกว่าร้อยไร่ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวพันกับกลุ่มนายทุนเดิมที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ ต.หนองแหน
กำลังโหลดความคิดเห็น