ฉะเชิงเทรา - ญาติ “ผู้ใหญ่จบ” เหยื่อเซ่นบ่อขยะพิษ ระบุชายในชุดยูนิฟอร์มปล่อยเงินกู้นอกระบบ ขับ จยย.เฝ้าดูพฤติกรรม 4 แกนนำมานานกว่า 3 เดือน จากนั้นตามประกบถ่ายภาพก่อนลงมือสังหารเป็นรายแรก
วันนี้ (26 ก.พ.) นายจร เนาวโอภาส อายุ 45 ปี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองแหน ซึ่งเป็นพี่ชายของนายประจบ เนาวโอภาส อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่่บ้านหมู่ 14 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ถูกมือปืนตามประกบยิงเสียชีวิตภายในอู่ซ่อมรถที่บริเวณด้านหลังตลาดศูนย์การค้าศิริพนมเมื่อวานนี้ กล่าวถึงเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นก่อนน้องชายถูกตามล่าสังหารว่า ช่วงตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ได้มีชาย 2 คน แต่งกายสวมเสื้อคลุมแบบแจ็กเกตสีดำ และสวมหมวกกันน็อกคลุมใบหน้า คล้ายกับแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ ขับรถเข้ามาวนเวียนในหมู่บ้าน โดยได้มีการเข้ามาแอบถ่ายภาพของน้องชาย และภาพทะเบียนรถ ซึ่งเป็นยานพาหนะคันที่น้องชายใช้ และนำไปเข้าอู่ซ่อมก่อนถูกตามสังหาร ส่วนตนเอง เคยถูกชายชุดดำลักษณะเดียวกันนี้เข้ามาแอบสอบถามข้อมูลส่วนตัว ทั้งสถานที่ทำงาน วันเวลาในการกลับเข้าออกบ้าน จากร้านค้า และอู่ซ่อรถจักรยานยนต์ใกล้บ้าน
นอกจากนี้ ยังมีนายสุนันท์ นิดร อายุ 46 ปี สมาชิก อบต.หมู่ 12 ซึ่งเป็นแกนนำอีกหนึ่งคนก็ได้ถูกติดตามถ่ายภาพ และทะเบียนรถไว้เช่นเดียวกับน้องชาย
ในขณะที่ นายมนัส สวัสดี เจ้าของที่ดินในเขตพื้นที่ ม.9 ต.เกาะขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างตำบล ที่ถูกขบวนการทิ้งสารเคมีแอบลักลอบนำเอาสารเคมีไปทิ้งใส่ที่ทำกินจนต้องออกมาร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้ด้วยนั้น ยังถูกรถเก๋งลักษณะเดียวกันกับรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ แอบเข้ามาวนเวียนถ่ายภาพอยู่ใกล้บ้านอยู่บ่อยครั้ง
นายจร กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการสังหารนั้น ตนยังไม่ขอชี้ชัดโดยจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาทำงานก่อน แต่ถ้าหากเปรียบเทียบน้ำหนักกับประเด็นในเรื่องอื่นๆ แล้ว ทุกเรื่องทุกประเด็นนั้นล้วนแล้วมีน้ำหนักน้อยกว่าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการออกมาเคลื่อนไหวในการต่อต้านบ่อขยะอุตสาหกรรม เช่น งานรับเหมาถมที่ดินนั้น นายประจบนั้นเป็นผู้ที่เข้าไปรับจ้างเหมาโดยตรงจากผู้ว่าจ้างโดยที่ไม่ได้ผ่านการประมูลหรือไปแย่งชิงตัดงานใครเขามา จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องชู้สาวนั้น มีอยู่บ้างแต่ก็สามารถที่จะพูดคุยกันได้ ขณะที่เรื่องเกี่ยวกับการพนันนั้นไม่มี
สำหรับเรื่องเกี่ยวข้องกับบ่อน้ำเสียนี้ ผู้ตาย และตนเองรวมถึงผู้ที่ร่วมในการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นได้เริ่มต่อสู้กันมาตั้งแต่ในปี 2552 ซึ่งมีการเคลื่อนไหวที่ต่างกรรมต่างวะระกัน ในการต่อต้านจุดทิ้งขยะ และน้ำเสียรวม 9 จุด ในเขตพื้นที่ ต.หนองแหน และอีก 3 จุด ในเขตพื้นที่ ต.เกาะขนุน จนเคยมีเรื่องฟ้องร้องกัน และมีการยกฟ้องกันไปแล้วในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่ล่าสุด ได้มีคำสั่งจากสำนักอัยการสูงสุดให้มาสอบปากคำผู้ใหญ่ประจบ และสมาชิก อบต.เพิ่มเติมในเรื่องเดิมเมื่อปี 52 อีก ซึ่งยังไม่ทราบว่าเขาจะสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปทำอะไร
