นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เตรียมก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของไทย ความยาว 1,120 เมตร และสะพานคอนกรีตอัดแรงข้ามแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร ความยาว 1,000 เมตร โดยมีถนนเชื่อมต่อเป็นทางยกระดับ (สะพานบก) ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 57 กิโลเมตร วงเงินรวม 49,600 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจากผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
นายประเสริฐ กล่าวว่า สะพานแขวนที่จะสร้างถือเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของไทย โดยจะมีรูปแบบเป็นท้องช้างคล้ายสะพานโกลเดนเกตของสหรัฐอเมริกา แตกต่างจากสะพานพระราม 8 และสะพานพระราม 9 ซึ่งที่จริงแล้วเป็นสะพานขึง
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอของบจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการเวนคืนที่ดิน ส่วนที่เหลือต้องพิจารณาว่า จะเป็นการลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนในรูปแบบพีพีพี หรือจะใช้เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจกา) ซึ่งจะมีการพิจารณาในรายละเอียดที่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และจะต้องมีการออกแบบสำรวจรายละเอียดต่อไป โดยหากผ่านขั้นตอนต่างๆ คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 แล้วเสร็จประมาณปี 2562-2563
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดี ทช. กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป จะเป็นออกแบบรายละเอียด และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หลังจากนั้นจึงจะเริ่มประกวดราคาก่อสร้าง โดยมีการประเมินค่าเวนคืนที่ดิน เพื่อใช้สร้างโครงการดังกล่าวประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งการศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็น 19.31 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน 1.สะพานข้ามแม่น้ำท่าจัน อ.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร 2.ถนนเชื่อมต่อทางยกระดับ 3.สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระสุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
นายประเสริฐ กล่าวว่า สะพานแขวนที่จะสร้างถือเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของไทย โดยจะมีรูปแบบเป็นท้องช้างคล้ายสะพานโกลเดนเกตของสหรัฐอเมริกา แตกต่างจากสะพานพระราม 8 และสะพานพระราม 9 ซึ่งที่จริงแล้วเป็นสะพานขึง
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอของบจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการเวนคืนที่ดิน ส่วนที่เหลือต้องพิจารณาว่า จะเป็นการลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนในรูปแบบพีพีพี หรือจะใช้เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจกา) ซึ่งจะมีการพิจารณาในรายละเอียดที่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และจะต้องมีการออกแบบสำรวจรายละเอียดต่อไป โดยหากผ่านขั้นตอนต่างๆ คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 แล้วเสร็จประมาณปี 2562-2563
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดี ทช. กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป จะเป็นออกแบบรายละเอียด และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หลังจากนั้นจึงจะเริ่มประกวดราคาก่อสร้าง โดยมีการประเมินค่าเวนคืนที่ดิน เพื่อใช้สร้างโครงการดังกล่าวประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งการศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็น 19.31 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน 1.สะพานข้ามแม่น้ำท่าจัน อ.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร 2.ถนนเชื่อมต่อทางยกระดับ 3.สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระสุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ