เอเอฟพี - ประชาชนในสหรัฐฯ หลายพันคนเดินทางมายังอ่าวซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวานนี้ (27) เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 75 ปีสะพานโกลเดนเกต สะพานเหล็กสีส้มแดงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปีละกว่า 10 ล้านคน
งานฉลองครั้งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นโดยฝ่ายบริหารนครซานฟรานซิสโก มีทั้งการแสดงดนตรี, เต้นระบำ, การจัดแสดงรถและมอเตอร์ไซค์ย้อนยุค รวมถึงการจุดพลุดอกไม้ไฟบริเวณสะพานโกลเดนเกต ซึ่งเป็นประตูระหว่างอ่าวซานฟรานซิสโกกับมหาสมุทรแปซิฟิก
บรรยากาศเช่นนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 75 ปีที่แล้ว เมื่อสะพานโกลเดนเกตเปิดให้ประชาชนเข้าชมเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1937 ก่อนที่จะเปิดให้รถยนต์สัญจรไปมาได้ในวันถัดมา ซึ่งในขณะนั้นโกลเดนเกตถือเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก
จากการออกแบบโดยวิศวกร โจเซฟ สเตราส์ สะพานโกลเดนเกตมีความโดดเด่นยิ่งกว่าสะพานแขวนอื่นๆ ด้วยสีสันที่สะดุดตา ซึ่งได้รับการเลือกสรรโดยสถาปนิก ไอร์วิง มอร์โรว์ จนสะพานแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “อินเตอร์เนชันแนล ออเรนจ์”
แต่เดิมนั้นสีส้มแดงของสะพานโกลเดนเกตมีจุดประสงค์เพื่อให้เรือที่ผ่านไปมาเห็นได้ถนัดชัดเจน และช่วยป้องกันสนิมซึ่งเกิดจากหมอกไอเกลือเหนือช่องแคบโกลเดนเกตด้วย
สะพานแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างนาน 4 ปี มีความยาว 2.7 กิโลเมตร กว้าง 27 เมตร เสาสะพานทั้ง 2 ต้นสูงเหนือระดับน้ำทะเล 746 ฟุต ขณะที่ตัวสะพานสูงจากผิวน้ำขึ้นมา 220 ฟุต
คนเดินเท้าและจักรยานยนต์ก็สามารถใช้สะพานแห่งนี้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สะพานโกลเดนเกตยังมีประวัติอันน่าสยอง เพราะเป็นจุดที่คนนิยมมาฆ่าตัวตายกันมาก
หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทม์สรายงานว่า เคยพบศพผู้กระโดดสะพานเสียชีวิตแล้ว 1,600 ราย และยังมีอีกหลายศพที่ไม่สามารถยืนยันได้
เฉพาะปีที่แล้ว มีผู้กระโดดสะพานฆ่าตัวตายถึง 37 คน ซึ่งเป็นปีที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายสูงเป็นอันดับ 4 นับตั้งแต่สะพานแห่งนี้เริ่มเปิดใช้งาน