“โอบามา”ย้ำไม่คิดเจรจากับ“รีพับลิกัน” เพื่อต่อรองแลกเปลี่ยนระหว่างการยอมตัดลดงบรายจ่ายกับการขยายเพดานก่อหนี้ ขณะที่“เบอร์นันกี”กระทุ้งซ้ำ เรียกร้องรัฐสภาเพิ่มศักยภาพในการกู้ยืมของรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เลวร้ายจากการผิดนัดชำระหนี้ที่กระทรวงคลังเพิ่งออกโรงเตือนว่า อาจเกิดขึ้นกลางเดือนหน้าหรือต้นเดือนมีนาคม หากคองเกรสและทำเนียบขาวยังคงตกลงกันไม่ได้
วันจันทร์ที่ผ่านมา (14) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จัดแถลงข่าวเพื่อตอกย้ำจุดยืนเรื่องการขยายเพดานก่อหนี้ และการตัดงบประมาณรายจ่าย โดยบอกว่า “สิ่งที่ผมจะไม่ทำคือ ยอมเจรจาโดยที่มีปืนจ่อหัวอเมริกันชนอยู่”
หลังจากที่พรรคเดโมแครตซึ่งเป็นฝ่ายบริหารและมีเสียงข้างมากในวุฒิสภา กับพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร สามารถบรรลุข้อตกลงที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงการหล่นกลิ้งลงมาจาก “หน้าผาการคลัง” ได้อย่างหวุดหวิดยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ เวลานี้บรรดานักการเมืองของทั้งสองพรรคในกรุงวอชิงตันก็กำลังเปิดศึกในประเด็นการคลังรอบใหม่ โดยคราวนี้คือเรื่องเพดานการก่อหนี้ ซึ่งเป็นตัวจำกัดปริมาณที่รัฐบาลสหรัฐฯจะสามารถกู้หนี้ยืมสินได้
สหรัฐฯนั้นอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ หากรัฐสภาโดยฝ่ายรีพับลิกันยังคงขัดขวางไม่ยอมขยายเพดานการก่อหนี้ สถานการณ์เช่นนี้ได้รับการตอกย้ำโดย เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งออกมากล่าวย้ำในการแสดงความคิดเห็นของเขาเองเมื่อวันจันทร์เช่นเดียวกัน
โอบามาได้งัดข้อกับคองเกรสมาหลายครั้งหลายหนแล้วในประเด็นเกี่ยวกับงบประมาณและรายจ่ายของรัฐบาล และในวันจันทร์เขากล่าวย้ำว่า รีพับลิกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากสหรัฐฯถึงกับต้องผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมา
ผู้นำทำเนียบขาวบอกว่า พร้อมหารือขั้นตอนในการลดภาวะการขาดดุลงบประมาณ แต่ต้องแยกจากประเด็นการขยายเพดานการก่อหนี้ และยืนกรานว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณควรครอบคลุมถึงมาตรการเพิ่มรายได้ด้วย ไม่ใช่การมุ่งลดรายจ่ายเพียงด้านเดียว
วันจันทร์ที่ผ่านมา (14) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จัดแถลงข่าวเพื่อตอกย้ำจุดยืนเรื่องการขยายเพดานก่อหนี้ และการตัดงบประมาณรายจ่าย โดยบอกว่า “สิ่งที่ผมจะไม่ทำคือ ยอมเจรจาโดยที่มีปืนจ่อหัวอเมริกันชนอยู่”
หลังจากที่พรรคเดโมแครตซึ่งเป็นฝ่ายบริหารและมีเสียงข้างมากในวุฒิสภา กับพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร สามารถบรรลุข้อตกลงที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงการหล่นกลิ้งลงมาจาก “หน้าผาการคลัง” ได้อย่างหวุดหวิดยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ เวลานี้บรรดานักการเมืองของทั้งสองพรรคในกรุงวอชิงตันก็กำลังเปิดศึกในประเด็นการคลังรอบใหม่ โดยคราวนี้คือเรื่องเพดานการก่อหนี้ ซึ่งเป็นตัวจำกัดปริมาณที่รัฐบาลสหรัฐฯจะสามารถกู้หนี้ยืมสินได้
สหรัฐฯนั้นอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ หากรัฐสภาโดยฝ่ายรีพับลิกันยังคงขัดขวางไม่ยอมขยายเพดานการก่อหนี้ สถานการณ์เช่นนี้ได้รับการตอกย้ำโดย เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งออกมากล่าวย้ำในการแสดงความคิดเห็นของเขาเองเมื่อวันจันทร์เช่นเดียวกัน
โอบามาได้งัดข้อกับคองเกรสมาหลายครั้งหลายหนแล้วในประเด็นเกี่ยวกับงบประมาณและรายจ่ายของรัฐบาล และในวันจันทร์เขากล่าวย้ำว่า รีพับลิกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากสหรัฐฯถึงกับต้องผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมา
ผู้นำทำเนียบขาวบอกว่า พร้อมหารือขั้นตอนในการลดภาวะการขาดดุลงบประมาณ แต่ต้องแยกจากประเด็นการขยายเพดานการก่อหนี้ และยืนกรานว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณควรครอบคลุมถึงมาตรการเพิ่มรายได้ด้วย ไม่ใช่การมุ่งลดรายจ่ายเพียงด้านเดียว