นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงนามบันทึกความเข้าใจ แสดงเจตจำนงของเกษตรกรผู้ประกอบการโรงเพาะฟักกุ้งทะเลต้นน้ำ ร่วมกับกรมประมง เพื่อปรับปรุงสุขอนามัยโรงเพาะฟักกุ้งทะเลต้นน้ำ แหล่งผลิตลูกกุ้งแรกฟัก พร้อมกันทั่วประเทศ ว่า กรมประมงได้หาแนวทางแก้ปัญหากลุ่มอาการโรคตายด่วน (EMS) ในกุ้งทะเล โดยได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ จัดทำมาตรฐาน ปรับปรุงสุขอนามัย โรงเพาะฟักกุ้งทะเลต้นน้ำ แหล่งผลิตลูกกุ้งแรกฟัก โดยการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรงเพาะฟัก ทั้งในระบบอากาศ ระบบน้ำ บ่อพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ และอุปกรณ์เครื่องมือ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน
ขณะที่นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า โรคกุ้งตายด่วน (EMS) ได้แพร่ระบาดในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยมาตรการปรับปรุงสุขอนามัยโรงเพาะฟักลูกกุ้งแรกฟัก จะแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย ภาคตะวันออ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต) และภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยแต่ละฟาร์มใช้เวลาทำความสะอาดและตรวจสอบมาตรฐานต่างๆ ไม่เกิน 20 วัน และมาตรการดังกล่าวจะเป็นการตรวจสอบสาเหตุโรค และลดปัญหาการเกิดโรคกุ้งตายด่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดโรคได้
ขณะที่นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า โรคกุ้งตายด่วน (EMS) ได้แพร่ระบาดในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยมาตรการปรับปรุงสุขอนามัยโรงเพาะฟักลูกกุ้งแรกฟัก จะแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย ภาคตะวันออ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต) และภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยแต่ละฟาร์มใช้เวลาทำความสะอาดและตรวจสอบมาตรฐานต่างๆ ไม่เกิน 20 วัน และมาตรการดังกล่าวจะเป็นการตรวจสอบสาเหตุโรค และลดปัญหาการเกิดโรคกุ้งตายด่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดโรคได้
