กลุ่มทีซีซี ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เมื่อวันพุธ (2) ได้รับการต่ออายุไปอีก 1 สัปดาห์ สำหรับการเพิ่มเงินเสนอซื้อ เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) เครือกิจการยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ เพื่อแข่งขันกับกลุ่มลิปโป แห่งอินโดนีเซีย ซึ่งจับมือกับ เบียร์คิริน ของญี่ปุ่น และดันราคาขึ้นไปอยู่ที่เท่ากับ 330,775 ล้านบาทแล้ว
ทีซีซี แอสเส็ตส์ ที่ควบคุมโดยเจ้าสัวเจริญ ระบุในคำแถลงที่ส่งถึงสื่อมวลชนในสิงคโปร์ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ที่นั่นปิดการซื้อขายในวันพุธไปแล้วว่า บริษัทได้รับการขยายเวลาอีกครั้งสำหรับการเสนอราคาซื้อ เอฟแอนด์เอ็น กลุ่มกิจการสิงคโปร์ที่มีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่อาหาร และเครื่องดื่ม จนถึงอสังหาริมทรัพย์ และสิ่งพิมพ์ คราวนี้เส้นตายคือ เวลา 17.30 น. เวลาสิงคโปร์ (ตรงกับ 16.30 น.เวลาเมืองไทย) ของวันที่ 10 มกราคม 2013
เอฟแอนด์เอ็มกลายเป็นเป้าหมายการผนวกกิจการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากได้ตัดขายเอเชีย แปซิฟิก บริวเวอรรี่ส์ ผู้ผลิตไทเกอร์ เบียร์ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุด ให้แก่ ไฮเนเก้น บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ที่ให้ข้อเสนอดีกว่าของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ
แต่ถึงไม่มีไทเกอร์เบียร์แล้ว กิจการที่ยังเหลืออยู่ของเอฟแอนด์เอ็นก็ยังถูกมองว่ามีมูลค่าสูง และพวกผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ต่างกำลังเล็งว่าควรจะต้องได้เงินสูงขึ้นอีกจากคู่แข่งขันฝ่ายไทย และฝ่ายอินโดนีเซียในศึกเทกโอเวอร์รอบนี้
แต่เดิม ทีซีซี มีเวลาจนถึง 17.30 น.ของวันพุธ (2 ม.ค.) ที่จะต้องให้ราคาใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อเสนอที่ยื่นเอาไว้ในเดือนกันยายน เพื่อขอซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นที่บริษัทยังไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยตีราคาเอฟแอนด์เอ็นไว้ที่เท่ากับ 8,700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 219,675 ล้านบาท) หรือหุ้นละ 8.88 ดอลลาร์สิงคโปร์
การยืดเวลาคราวล่าสุดนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ ทีซีซี ขอขยายเวลาในการพิจารณา หลังจากที่กลุ่มร่วมค้า (consortium) ซึ่งนำโดย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ โอเวอร์ซีส์ ยูเนียน เอนเตอร์ไพรส์ (โอยูอี) ของ ลิปโป กรุ๊ป จากอินโดนีเซีย ยื่นเสนอราคาขอเทกโอเวอร์เอฟแอนด์เอ็นที่สูงกว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน
ทีซีซี แอสเส็ตส์ ที่ควบคุมโดยเจ้าสัวเจริญ ระบุในคำแถลงที่ส่งถึงสื่อมวลชนในสิงคโปร์ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ที่นั่นปิดการซื้อขายในวันพุธไปแล้วว่า บริษัทได้รับการขยายเวลาอีกครั้งสำหรับการเสนอราคาซื้อ เอฟแอนด์เอ็น กลุ่มกิจการสิงคโปร์ที่มีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่อาหาร และเครื่องดื่ม จนถึงอสังหาริมทรัพย์ และสิ่งพิมพ์ คราวนี้เส้นตายคือ เวลา 17.30 น. เวลาสิงคโปร์ (ตรงกับ 16.30 น.เวลาเมืองไทย) ของวันที่ 10 มกราคม 2013
เอฟแอนด์เอ็มกลายเป็นเป้าหมายการผนวกกิจการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากได้ตัดขายเอเชีย แปซิฟิก บริวเวอรรี่ส์ ผู้ผลิตไทเกอร์ เบียร์ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุด ให้แก่ ไฮเนเก้น บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ที่ให้ข้อเสนอดีกว่าของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ
แต่ถึงไม่มีไทเกอร์เบียร์แล้ว กิจการที่ยังเหลืออยู่ของเอฟแอนด์เอ็นก็ยังถูกมองว่ามีมูลค่าสูง และพวกผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ต่างกำลังเล็งว่าควรจะต้องได้เงินสูงขึ้นอีกจากคู่แข่งขันฝ่ายไทย และฝ่ายอินโดนีเซียในศึกเทกโอเวอร์รอบนี้
แต่เดิม ทีซีซี มีเวลาจนถึง 17.30 น.ของวันพุธ (2 ม.ค.) ที่จะต้องให้ราคาใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อเสนอที่ยื่นเอาไว้ในเดือนกันยายน เพื่อขอซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นที่บริษัทยังไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยตีราคาเอฟแอนด์เอ็นไว้ที่เท่ากับ 8,700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 219,675 ล้านบาท) หรือหุ้นละ 8.88 ดอลลาร์สิงคโปร์
การยืดเวลาคราวล่าสุดนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ ทีซีซี ขอขยายเวลาในการพิจารณา หลังจากที่กลุ่มร่วมค้า (consortium) ซึ่งนำโดย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ โอเวอร์ซีส์ ยูเนียน เอนเตอร์ไพรส์ (โอยูอี) ของ ลิปโป กรุ๊ป จากอินโดนีเซีย ยื่นเสนอราคาขอเทกโอเวอร์เอฟแอนด์เอ็นที่สูงกว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน