บีบีซี - ผู้ถือหุ้นของเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติสิงคโปร์ ลงมติโหวตรับรองข้อตกลงขายหุ้นให้แก่ไฮเนเก้น ส่งผลให้ผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่จากแดนกังหันลม จะเข้าควบคุมกิจการของเอเชีย-แปซิฟิก บริวเวอรีส์ (เอพีบี) บริษัทลูกของเอฟแอนด์เอ็นและเจ้าของแบรนด์ดังอย่างเช่น “ไทเกอร์ เบียร์”
การตัดสินใจของผู้ถือหุ้นเอฟแอนด์เอ็น มีออกมาตามหลังการต่อสู้แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในเอเชียที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ระหว่างไฮเนเก้นและนายเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีน้ำเมาของไทย ขณะที่เอพีบีคือผู้ผลิตเบียร์ยี่ห้อดังหลายยี่ห้อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในนั้นรวมถึง บินตังของอินโดนีเซียและแอนชอร์
ปัจจุบัน ไฮเนเก้นถือหุ้นเอพีบีที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์อยู่แล้ว 42% และเสนอซื้อหุ้นอีก 40% ในราคา 5,600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากเอฟแอนด์เอ็น ที่บริษัทของเจ้าสัวเจริญถือหุ้นอยู่เกือบๆ 31%
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในเอเชีย เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม เมื่อไทย เบฟเวอเรจ (ไทยเบฟ) และทีซีซี แอสเสตส์ 2 กิจการซึ่งควบคุมโดยเจ้าสัวเจริญ ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นทั้งในเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ และเอพีบี
ข้อเสนอดังกล่าวจุดชนวนให้ไฮเนเก้นต้องดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองในภูมิภาคด้วยการพยายามเข้าควบคุมกิจการของเอพีบีอย่างสมบูรณ์
หลังจากเผชิญหน้ากันหลายยก การต่อสู้ที่เหล่านักวิเคราะห์พากันเรียกว่า “สงครามข้อเสนอ” สำหรับควบคุมกิจการเอบีพี ท้ายที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน บริษัทของเจ้าสัวเจริญก็หันกลับมาสนับสนุน ไฮเนเก้นเข้าเทกโอเวอร์เอพีบี โดยแลกเปลี่ยนกับการที่บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่จากแดนกังหันลม ไม่แย่งซื้อเอฟแอนด์เอ็น บริษัทแม่ของเอพีบีที่เจ้าสัวเจริญหมายตา
ทั้งนี้ แม้ทางผู้ถือหุ้นเอฟแอนด์เอ็น ลงมติโหวตรับรองข้อตกลงขายหุ้นให้แก่ไฮเนเก้นเรียบร้อยแล้ว แต่การเทคโอเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังต้องได้รับการรับรองจากคณะผู้คุมกฎระเบียบของสิงคโปร์เสียก่อน