นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยเฉพาะการประกาศเจตนารมณ์เริ่มต้นการจัดทำการเจรจาความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Parnership : RCEP) ว่า ในภาพรวมถือเป็นการให้ประเทศสมาชิกได้ตอกย้ำความพร้อมและความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงสหรัฐอเมริกา และยังเป็นการหารือปัญหาข้อติดขัดต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้ความร่วมมือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารสู่เวทีโลก
ส่วนกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (TPP) ที่มีหลายฝ่ายแสดงความห่วงใยนั้น เห็นว่า TPP เป็นกรอบการค้าเสรีขั้นสูง ที่จะเน้นในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิบัตร ทรัพย์สินทางปัญญา โดยไทยน่าจะได้รับประโยชน์ด้านภาษีในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ และเห็นว่าในระยะยาวไทยคงต้องเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือ แต่จะต้องใช้เวลาศึกษาความพร้อม รวมถึงข้อตกลงที่จะยกเว้น หรือป้องกันผลกระทบในเชิงลบกับไทย
ส่วนกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (TPP) ที่มีหลายฝ่ายแสดงความห่วงใยนั้น เห็นว่า TPP เป็นกรอบการค้าเสรีขั้นสูง ที่จะเน้นในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิบัตร ทรัพย์สินทางปัญญา โดยไทยน่าจะได้รับประโยชน์ด้านภาษีในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ และเห็นว่าในระยะยาวไทยคงต้องเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือ แต่จะต้องใช้เวลาศึกษาความพร้อม รวมถึงข้อตกลงที่จะยกเว้น หรือป้องกันผลกระทบในเชิงลบกับไทย