ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ ได้วิเคราะห์แนวโน้มเงินเฟ้อปีนี้ว่า มีแรงกดดันน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่มีราคาทรงตัว ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ประกอบกับค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ส่งผลให้แรงกดดันต่อราคาพลังงานในประเทศ มีไม่มากนักในระยะต่อไป
นอกจากนี้ การส่งออกที่ชะลอตัวลง ยังช่วยลดแรงกดดันได้อีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี ทำให้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 3.2 และเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ส่วนอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.24 แม้เทศกาลกินเจทำให้ราคาผักและผลไม้ เร่งขึ้นร้อยละ 3.1 แต่ถูกชดเชยด้วยการลดลงของราคาเนื้อสัตว์ปีกปรุงสำเร็จถึงร้อยละ 5.6 ทำให้ราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ปรับขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 ขณะที่ราคาพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 2
นอกจากนี้ การส่งออกที่ชะลอตัวลง ยังช่วยลดแรงกดดันได้อีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี ทำให้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 3.2 และเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ส่วนอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.24 แม้เทศกาลกินเจทำให้ราคาผักและผลไม้ เร่งขึ้นร้อยละ 3.1 แต่ถูกชดเชยด้วยการลดลงของราคาเนื้อสัตว์ปีกปรุงสำเร็จถึงร้อยละ 5.6 ทำให้ราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ปรับขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 ขณะที่ราคาพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 2