นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยในช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ พายุดังกล่าวจะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม ประเทศลาวตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม การเกิดพายุดีเปรสชั่น ในช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ จะส่งผลดีในการกักเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 50-60 เท่านั้น แต่ในทางกลับกันและส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบเนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ได้ ดังนั้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ กรมอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานให้ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.รับทราบแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชน อย่าตื่นตกใจรับฟังสถานการณ์เพื่อให้สามารถ เตรียมตัวได้ทัน
นายชมชาย กล่าวด้วยว่า พายุดีเปรสชั่นดังกล่าวถือเป็นลูกแรกที่เข้าไทยในปีนี้ และคาดว่าจะมีโอกาสเกิดพายุขึ้นได้อีก 1-2 ลูกเท่านั้น ซึ่งฤดูฝนก็จะหมดในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเกิดพายุดีเปรสชั่น ในช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ จะส่งผลดีในการกักเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 50-60 เท่านั้น แต่ในทางกลับกันและส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบเนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ได้ ดังนั้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ กรมอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานให้ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.รับทราบแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชน อย่าตื่นตกใจรับฟังสถานการณ์เพื่อให้สามารถ เตรียมตัวได้ทัน
นายชมชาย กล่าวด้วยว่า พายุดีเปรสชั่นดังกล่าวถือเป็นลูกแรกที่เข้าไทยในปีนี้ และคาดว่าจะมีโอกาสเกิดพายุขึ้นได้อีก 1-2 ลูกเท่านั้น ซึ่งฤดูฝนก็จะหมดในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวต่อไป