สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช.จัดการประชุมร่วมกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพโดยสาธารณะ กรณีศึกษาผลกระทบจากข้อตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ ไทย-อียู ต่อการเข้าถึงยา
เภสัชกรวินิต อัศวกิจวิรี ผู้อำนวยการสำนักยา กล่าวว่า หลังจากสหภาพยุโรปเปลี่ยนแนวทางการเจรจาในระดับอาเซียน มาเป็นแบบทวิภาคีกับประเทศที่มีความพร้อมในการพัฒนา 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ซึ่งพบว่า ประเด็นสำคัญในการเจรจาระหว่างกัน คือ การขอขยายเวลาสิทธิบัตร ที่เป็นลักษณะเกินข้อตกลงพหุภาคีภายใต้องค์การการค้าโลก ว่าด้วยสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความตกลงการค้าเสรีไทย-สหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเข้าถึงยาของประชาชน ดังนั้นเพื่อให้ไทยสามารถกำหนดนโยบายและแนวทางในการเจรจา ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ จึงจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การกำหนดท่าทีการเจรจาต่อไป
นายแพทย์วิพุธ พูลเจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบ และเครื่องมือในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ กล่าวว่า จากการฟังความเห็นของนักวิชาการ มีข้อกังวลในใจ 2 ประเด็น คือ ราคายาที่อาจแพงขึ้น และสิทธิบัตรยา ที่อาจทำให้บริษัทยาต่างประเทศได้เปรียบ ในการประชุมครั้งนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วม คาดว่าหลังจากนี้ไม่เกิน 2 เดือน จะนำข้อมูลมาประมวลผลและสรุปผลส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
เภสัชกรวินิต อัศวกิจวิรี ผู้อำนวยการสำนักยา กล่าวว่า หลังจากสหภาพยุโรปเปลี่ยนแนวทางการเจรจาในระดับอาเซียน มาเป็นแบบทวิภาคีกับประเทศที่มีความพร้อมในการพัฒนา 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ซึ่งพบว่า ประเด็นสำคัญในการเจรจาระหว่างกัน คือ การขอขยายเวลาสิทธิบัตร ที่เป็นลักษณะเกินข้อตกลงพหุภาคีภายใต้องค์การการค้าโลก ว่าด้วยสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความตกลงการค้าเสรีไทย-สหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเข้าถึงยาของประชาชน ดังนั้นเพื่อให้ไทยสามารถกำหนดนโยบายและแนวทางในการเจรจา ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ จึงจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การกำหนดท่าทีการเจรจาต่อไป
นายแพทย์วิพุธ พูลเจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบ และเครื่องมือในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ กล่าวว่า จากการฟังความเห็นของนักวิชาการ มีข้อกังวลในใจ 2 ประเด็น คือ ราคายาที่อาจแพงขึ้น และสิทธิบัตรยา ที่อาจทำให้บริษัทยาต่างประเทศได้เปรียบ ในการประชุมครั้งนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วม คาดว่าหลังจากนี้ไม่เกิน 2 เดือน จะนำข้อมูลมาประมวลผลและสรุปผลส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
