พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2555 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2555 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับมาประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กรมราชทัณฑ์จะลงนามคำสั่งไปยังเรือนจำทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมปล่อยผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักโทษประมาณ 30,000 คน ที่เข้าข่ายได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ได้แก่ นักโทษชรา นักโทษที่เจ็บป่วย พิการ หรือเหลือโทษไม่เกิน 1 ปี และนักโทษที่จำคุกเกินกว่าอัตราโทษที่เหลือแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเร่งปล่อยตัวนักโทษที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนประมาณ 10,000 คน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับการปล่อยตัวต่อไป เป็นกลุ่มที่ได้รับพระราชทานลดโทษ ต้องตรวจสอบโทษที่เหลือ ว่าได้จำคุกมาเกินกว่าที่เหลือแล้ว ซึ่งตามกฎหมายจะต้องปล่อยตัวภายใน 60 วัน นับจากวันที่มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กรมราชทัณฑ์จะลงนามคำสั่งไปยังเรือนจำทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมปล่อยผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักโทษประมาณ 30,000 คน ที่เข้าข่ายได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ได้แก่ นักโทษชรา นักโทษที่เจ็บป่วย พิการ หรือเหลือโทษไม่เกิน 1 ปี และนักโทษที่จำคุกเกินกว่าอัตราโทษที่เหลือแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเร่งปล่อยตัวนักโทษที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนประมาณ 10,000 คน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับการปล่อยตัวต่อไป เป็นกลุ่มที่ได้รับพระราชทานลดโทษ ต้องตรวจสอบโทษที่เหลือ ว่าได้จำคุกมาเกินกว่าที่เหลือแล้ว ซึ่งตามกฎหมายจะต้องปล่อยตัวภายใน 60 วัน นับจากวันที่มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา