บุรีรัมย์ - เรือนจำบุรีรัมย์ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ 99 คนในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมมอบเงินขวัญถุงให้ก่อนกลับบ้าน ท่ามกลางพ่อแม่และลูกเมียมาคอยรับหน้าเรือนจำ ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ต้องขังและครอบครัวที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นล้นพ้น
วันนี้ (16 ส.ค.) นายสมภาศ ทองหวาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางมะลิวัลย์ พูนขวัญ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันทำพิธีปล่อยผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระบรมโอสราธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์มีผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวจำนวน 99 คน เป็นชาย 89 คน หญิง 10 คน
ทั้งนี้ ทั้งหมดเป็นผู้กระทำผิดในคดีเล็กน้อย ผู้เจ็บป่วย พิการ ทุพพลภาพ คนชรา และผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี เป็นผู้มีความประพฤติดี ซึ่งได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยโทษให้เพื่อคืนคนดีสู่สังคม และเปิดโอกาสให้กลับไปใช้ชีวิตตั้งหน้าทำมาหากินโดยสุจริตอยู่กับครอบครัวต่อไป ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ต้องขังและครอบครัวที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นล้นพ้น
โดยในพิธีฯ ผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี รวมทั้งได้กล่าวคำปฏิญาณว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี และจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงจะเป็นคนดีของสังคม ไม่ประพฤติตนอย่างเช่นอดีตที่ผิดพลาด ทั้งนี้ จากข้อมูลเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้กระทำความผิดที่ถูกควบคุมตัวอยู่ทั้งสิ้น 1,082 คน เป็นชาย 974 คน หญิง 108 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด รองลงมาเป็นคดีลักทรัพย์ ทะเลาะวิวาท และคดีอื่นๆ
จากนั้นเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ได้มอบเงินขวัญถุงให้ผู้ที่ได้รับการอภัยโทษคนละ 500 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางกลับบ้าน และเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพต่อไป
ขณะเดียวกัน บริเวณหน้าประตูเรือนจำ ได้มีพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และลูก เมีย มาคอยรอรับกันอย่างอบอุ่น รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบของ สภ.เมืองบุรีรัมย์มาคอยสังเกตการณ์ เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการอภัยโทษ เคยมีอดีตผู้ต้องโทษออกไปได้แค่เพียง 3 วันก็กลับเข้ามาที่เรือนจำอีก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดและลักทรัพย์เล็กน้อย ดังนั้น ตำรวจจึงมาคอยให้การอบรมและห้ามปรามไปในตัวด้วย
นายสมภาศ ทองหวาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในครั้งนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
