เรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบปล่อยผู้ต้องขังได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ ปล่อยผู้ต้องขัง 18 นาย ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

วันนี้ (12 ก.ย.) พล.ร.ท.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นประธานพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ณ บริเวณหน้ากองบังคับการเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีผู้บังคับการเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ ข้าราชการ และญาติผู้ได้รับการปล่อยตัว ร่วมเป็นสักขีพยาน

น.ต.สุทธิโชค ทวีวงษ์ ผู้บังคับการเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาพระราชอภัยโทษ พ.ศ.2555 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 นั้น เรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ มีผู้ต้องขังสมควรได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวน 43 นาย แ่บ่งเป็นลดโทษ จำนวน 25 นาย ปล่อยตัวนักโทษ จำนวน 18 นาย

เพื่อให้เกิดความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผู้ได้รับการปล่อยตัวจำนวน 18 นาย ได้ร่วมกันทำงานสาธารณประโยชน์ก่อนการปล่อยตัว จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ วัดสามัคคีบรรพต ศาลกรมหลวงชุมพร (แหลมปู่เจ้า) ศาสนสถาน ฐานทัพเรือสัตหีบ และโรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ

พล.ร.ท.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้ต้องขัง และครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษ และขอให้ผู้ต้องขังทุกคนพึงรำลึกไว้ว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้เสมือนการให้โอกาสเริ่มใหม่ มุ่งมั่นตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีงาม มีความจงรักภักดีในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

รวมทั้งตั้งปณิธานเป็นคนดีของสังคม และประเทศชาติ และขอให้นำวิชาความรู้ในด้านต่างๆ ที่ได้รับจากการฝึกอาชีพในเรือนจำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต หากทำได้เช่นนั้น ก็จะได้ชื่อว่าได้สนองพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประการสำคัญเหนือสิ่งใด ขอให้ทุกคนน้อมรำลึกในพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็จะส่งผลให้ทุกคนมีชีวิตส่วนตน และครอบครัวที่มีความผาสุกอย่างยั่งยืนต่อไป