ความคืบหน้าการป้องกันและปราบปรามปุ๋ยปลอมของเจ้าหน้าที่ ล่าสุด จับกุมผู้ค้าปุ๋ยปลอมที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี รวมประมาณกว่า 90 ตัน โดยมีทั้งปุ๋ยยูเรียเปียกน้ำที่เสื่อมคุณภาพ ปุ๋ยปรับสภาพดิน และอาหารเสริมชนิดเม็ด รวมทั้งปุ๋ยสูตรมาตรฐานต่างๆ หลายสูตร โดยเจ้าหน้าที่ตั้ง 2 ข้อหา คือ การผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย และการโฆษณาที่เป็นเท็จเกี่ยวกับคุณภาพ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปุ๋ยที่พบขณะนี้มีทั้งปุ๋ยปลอมและปุ๋ยเสื่อมคุณภาพ ซึ่งบางส่วนเป็นปุ๋ยที่ถูกน้ำท่วมมาก่อน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เร่งจับกุมผู้กระทำผิด และจะใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรง โดยเฉพาะกับกลุ่มพ่อค้าเร่ ที่รับสินค้าไปจำหน่ายต่อยังเกษตรกร
สำหรับราคาปุ๋ยปลอมที่นายหน้า หรือพ่อค้าปุ๋ยเร่ นำออกจำหน่าย จะมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดร้อยละ 30-40 จากราคาปุ๋ยปกติ ที่จำหน่ายอยู่ที่กระสอบละประมาณ 1,000 บาท ในขนาดกระสอบ 50 กิโลกรัม
ที่ผ่านมาพบการจำหน่ายปุ๋ยปลอมมากในภาคอีสาน และภาคกลาง โดยสถิติการดำเนินคดีกับพ่อค้าเร่ หรือผู้ผลิตปุ๋ยผิดมาตรฐาน ระหว่างปี 2551-2555 มีทั้งหมด 1,233 ราย
ทั้งนี้ มีคำตัดสินว่าทำผิดกฎหมายแล้ว 28 ราย ส่วนรายอื่นๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และหากพบผู้กระทำผิด สามารถแจ้งผ่านสายด่วน สคบ.หมายเลข 1166 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปุ๋ยที่พบขณะนี้มีทั้งปุ๋ยปลอมและปุ๋ยเสื่อมคุณภาพ ซึ่งบางส่วนเป็นปุ๋ยที่ถูกน้ำท่วมมาก่อน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เร่งจับกุมผู้กระทำผิด และจะใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรง โดยเฉพาะกับกลุ่มพ่อค้าเร่ ที่รับสินค้าไปจำหน่ายต่อยังเกษตรกร
สำหรับราคาปุ๋ยปลอมที่นายหน้า หรือพ่อค้าปุ๋ยเร่ นำออกจำหน่าย จะมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดร้อยละ 30-40 จากราคาปุ๋ยปกติ ที่จำหน่ายอยู่ที่กระสอบละประมาณ 1,000 บาท ในขนาดกระสอบ 50 กิโลกรัม
ที่ผ่านมาพบการจำหน่ายปุ๋ยปลอมมากในภาคอีสาน และภาคกลาง โดยสถิติการดำเนินคดีกับพ่อค้าเร่ หรือผู้ผลิตปุ๋ยผิดมาตรฐาน ระหว่างปี 2551-2555 มีทั้งหมด 1,233 ราย
ทั้งนี้ มีคำตัดสินว่าทำผิดกฎหมายแล้ว 28 ราย ส่วนรายอื่นๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และหากพบผู้กระทำผิด สามารถแจ้งผ่านสายด่วน สคบ.หมายเลข 1166 ตลอด 24 ชั่วโมง
