ผู้ชุมนุมเกษตรกรนำรถแทรกเตอร์ประชิดประตูทำเนียบรัฐบาล เผยเหตุมาจากรถไถนาคูโบต้า 1.5 ล้านพังแล้วพังอีก ปักหลักตั้งแต่ 1 ก.ค. แต่คนของรัฐบาลหลอกพาไปให้พ้นตานักข่าว แต่ไร้ความคืบหน้าจึงขยับ จี้ “วรวัจน์” ทำตามสัญญา ขอแค่คืนรถและเงินดาวน์ 3 แสนคืน หลังกู้หนี้ยืมสิน
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรจากภาคกลาง ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมจาก จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 50 คน ได้นำรถแทรกเตอร์จำนวนประมาณ 10 คัน มาจอดขวางประชิดที่บริเวณประตูใหญ่ ข้างทางเข้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นอกจากนี้ยังจอดเรียงรายชิดขอบบาทวิถี ถนนพิษณุโลก ยาวเกือบถึงแยกสวนมิสกวัน ภายหลัง นายอเนก ผ่องทอง แกนนำเกษตรกรจาก จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆ เกษตรกรได้ปักหลักชุมนุมเรียกร้อง มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ แต่ถูกคนของรัฐบาลหลอกล่อให้ไปอยู่ในที่ลับตาของสื่อมวลชน ดังนั้นจึงทำให้นักข่าวไม่เห็นว่าพวกตนเดือดร้อนและมาเรียกร้อง จนวันนี้ทนไม่ไหวพวกตนจึงต้องขยับออกมาเพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลืออะไร
นายอเนกกล่าวต่อว่า กลุ่มเกษตรกรเดือดร้อนจากการที่ต้องใช้เงินเก็บและไปกู้เงินนอกระบบ ซึ่งกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาดาวน์รถไถนา ราคา 1.5 ล้านบาท ที่มีการโฆษณาว่า รถใช้การได้ดีจนพวกตนเชื่อและใช้เงินดาวน์มาประมาณ 3 แสนบาท แต่เมื่อใช้รถได้ไม่นานเกี่ยวข้าวไม่กี่ครั้งรถก็พัง ซ่อมแล้วก็พัง และไม่มีใครรับผิดชอบ จึงพากันมาเรียกร้องให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่มีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลมาช่วยดูแลเรื่องดังกล่าว
แต่ปรากฏว่า 15 วันที่ผ่านมา บริษัทคูโบต้ายังไม่ยอมมาดูแลลูกค้า แต่ทาง สคบ.ส่งคนมาเจรจา และนายวรวัจน์ก็มาเจรจาเองแต่ก็บอกให้รอประมาณ 10-15 วันก่อน เพราะต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งพวกตนก็รอ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เหมือนรัฐบาลไม่จริงจังในการช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ดังนั้นพวกตนไม่เรียกร้องอะไรมาก แค่จะคืนรถแล้วขอเงินดาวน์คืนเท่านั้น เพราะพวกตนเดือดร้อน และหากในวันนี้ไม่มีคนมาเจรจา พวกตนจะทำการปิดถนนด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล และจะมีการเกษตรกรจากที่อื่นเดินทางนำรถไถนามาสมทบอีก และจะทำการชุมนุมกันต่อไป จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรจากภาคกลาง ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมจาก จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 50 คน ได้นำรถแทรกเตอร์จำนวนประมาณ 10 คัน มาจอดขวางประชิดที่บริเวณประตูใหญ่ ข้างทางเข้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นอกจากนี้ยังจอดเรียงรายชิดขอบบาทวิถี ถนนพิษณุโลก ยาวเกือบถึงแยกสวนมิสกวัน ภายหลัง นายอเนก ผ่องทอง แกนนำเกษตรกรจาก จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆ เกษตรกรได้ปักหลักชุมนุมเรียกร้อง มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ แต่ถูกคนของรัฐบาลหลอกล่อให้ไปอยู่ในที่ลับตาของสื่อมวลชน ดังนั้นจึงทำให้นักข่าวไม่เห็นว่าพวกตนเดือดร้อนและมาเรียกร้อง จนวันนี้ทนไม่ไหวพวกตนจึงต้องขยับออกมาเพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลืออะไร
นายอเนกกล่าวต่อว่า กลุ่มเกษตรกรเดือดร้อนจากการที่ต้องใช้เงินเก็บและไปกู้เงินนอกระบบ ซึ่งกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาดาวน์รถไถนา ราคา 1.5 ล้านบาท ที่มีการโฆษณาว่า รถใช้การได้ดีจนพวกตนเชื่อและใช้เงินดาวน์มาประมาณ 3 แสนบาท แต่เมื่อใช้รถได้ไม่นานเกี่ยวข้าวไม่กี่ครั้งรถก็พัง ซ่อมแล้วก็พัง และไม่มีใครรับผิดชอบ จึงพากันมาเรียกร้องให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่มีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลมาช่วยดูแลเรื่องดังกล่าว
แต่ปรากฏว่า 15 วันที่ผ่านมา บริษัทคูโบต้ายังไม่ยอมมาดูแลลูกค้า แต่ทาง สคบ.ส่งคนมาเจรจา และนายวรวัจน์ก็มาเจรจาเองแต่ก็บอกให้รอประมาณ 10-15 วันก่อน เพราะต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งพวกตนก็รอ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เหมือนรัฐบาลไม่จริงจังในการช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ดังนั้นพวกตนไม่เรียกร้องอะไรมาก แค่จะคืนรถแล้วขอเงินดาวน์คืนเท่านั้น เพราะพวกตนเดือดร้อน และหากในวันนี้ไม่มีคนมาเจรจา พวกตนจะทำการปิดถนนด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล และจะมีการเกษตรกรจากที่อื่นเดินทางนำรถไถนามาสมทบอีก และจะทำการชุมนุมกันต่อไป จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน
