ไอเอ็มเอฟเตือนวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังเลวร้ายลงทุกที เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการเติบโตของจีน นอกเหนือจากปัจจัยลบภายในประเทศ เป็นต้นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำแรงกว่าคาดหมาย กระนั้น องค์การโลกบาลทางการเงินแห่งนี้ก็เชื่อว่า ปักกิ่งมีลู่ทางและเครื่องมือทางการคลังในการรับมือสถานการณ์ร้ายต่างๆ พร้อมทั้งแนะนำการสานต่อการปฏิรูปและปล่อยให้เงินหยวนแข็งขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงและฟื้นสมดุลการขยายตัว
ไตรมาส 2 ของปีนี้ เศรษฐกิจแดนมังกรขยายตัวในอัตรา 7.6% นับว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ดี กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราเติบโตของจีนในปีงบประมาณปัจจุบันจะอยู่ที่ 8% แต่ก็เตือนหากไม่เตรียมมาตรการรับมือวิกฤตยูโรโซน ตัวเลขดังกล่าวมีโอกาสหดหายลงถึงครึ่งหนึ่ง
“ความเสี่ยงภายนอกที่สำคัญยังคงเป็นผลพวงจากวิกฤตยูโรโซนที่เลวร้ายลง ซึ่งหากปักกิ่งไม่มีนโยบายรับมือ อัตราเติบโตอาจวูบลงถึง 4% และ(นั่นหมายถึง) 1-3% สำหรับเศรษฐกิจโลก” ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจของจีน ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(25)
ยูโรโซนเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าออกของจีน และเกิดความกลัวกันว่า วิกฤตหนี้ที่นั่นซึ่งลุกลามออกไปไม่หยุดกำลังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นและความต้องการของผู้บริโภค จนฉุดยอดส่งออกไปยังภูมิภาคดังกล่าว
ในส่วนปัจจัยเสี่ยงภายในแดนมังกรเองนั้น ไอเอ็มเอฟเน้นหนักปัญหาจากภาคอสังหาริมทรัพย์
ไตรมาส 2 ของปีนี้ เศรษฐกิจแดนมังกรขยายตัวในอัตรา 7.6% นับว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ดี กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราเติบโตของจีนในปีงบประมาณปัจจุบันจะอยู่ที่ 8% แต่ก็เตือนหากไม่เตรียมมาตรการรับมือวิกฤตยูโรโซน ตัวเลขดังกล่าวมีโอกาสหดหายลงถึงครึ่งหนึ่ง
“ความเสี่ยงภายนอกที่สำคัญยังคงเป็นผลพวงจากวิกฤตยูโรโซนที่เลวร้ายลง ซึ่งหากปักกิ่งไม่มีนโยบายรับมือ อัตราเติบโตอาจวูบลงถึง 4% และ(นั่นหมายถึง) 1-3% สำหรับเศรษฐกิจโลก” ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจของจีน ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(25)
ยูโรโซนเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าออกของจีน และเกิดความกลัวกันว่า วิกฤตหนี้ที่นั่นซึ่งลุกลามออกไปไม่หยุดกำลังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นและความต้องการของผู้บริโภค จนฉุดยอดส่งออกไปยังภูมิภาคดังกล่าว
ในส่วนปัจจัยเสี่ยงภายในแดนมังกรเองนั้น ไอเอ็มเอฟเน้นหนักปัญหาจากภาคอสังหาริมทรัพย์