“ยิ่งลักษณ์” สั่ง พณ.สำรวจประเทศที่มีศักยภาพในอนาคต หวังขยายตลาด แก้ปัญหาวิกฤตยูโรโซน มั่นใจ หากภาครัฐ-เอกชน ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ เป้าหมายส่งออกร้อยละ 15 ทำได้แน่ วอน อย่าโทษรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หากท้ายที่สุดไม่เป็นตามที่คาดหมาย เหตุมีปัจจัยที่ควบคุมได้-ไม่ได้
วันที่ 30 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการส่งออกเพื่อผลักดันการส่งออกให้มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 15 (ปี 2555) ว่า วัตถุประสงค์ที่เรามาประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ เพราะภาครัฐเองมีความมั่นใจถ้าเราได้ทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ขอเรียนว่า วิธีการต่างๆ สิ่งที่เราได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจต่างๆ เราก็ไม่อยากให้อยู่ในความประมาท เราต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคส่งออก เนื่องจากอัตราการส่งออกได้รับผลกระทบจากกลุ่มประเทศยุโรป
ทั้งนี้ โดยรวมภาคเอกชนเองก็มีความต้องการให้ภาครัฐตั้งคณะทำงานในการที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วนให้ภาคเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลดปัญหาเรื่องอุปสรรคต่างๆ เช่น เรื่องความแออัดของท่าเรือหรือสิ่งต่างๆที่จะช่วยในการอำนวยความสะดวก แต่แน่นอนว่า ในระยะยาวเราเองคงไม่แก้ปัญหาแค่การตั้งรับ แต่ก็มานั่งคุยกันถึงวิธีการและศักยภาพที่วันนี้เองปัญหาเศรษฐกิจของโลกก็เปลี่ยนแปลงไป เราก็ต้องมาทำความเข้าใจว่า ภูมิภาคไหนที่มีเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะให้กระทรวงพาณิชย์ไปสำรวจว่า แต่ละประเทศมีนโยบาย มีโครงสร้างในการลงทุน มีโครงการสร้างเรื่องการส่งออกอย่างไร เพื่อที่จะทำความเข้าใจให้ชัดเจน และจะมาทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการแก้ปัญหาในเขตประเทศที่มีผลกระทบจากกลุ่มประเทศยุโรป และต้องรักษาฐานในประเทศที่มีศักยภาพอยู่ และพร้อมที่จะเปิดในส่วนของประเทศอื่นๆที่มีศักยภาพใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะได้โอกาศในการสร้างรายได้ใหม่ในระยะยาว
นายกรัฐมนตรี ขณะที่ส่วนที่สองก็จะต้องมาทำความเข้าใจภายในประเทศว่า เราจะช่วยเพิ่มศักยภาพของภาคเอกชนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเข้าใจโครงสร้างต่างๆทางด้านสินค้า การตลาด และโครงสร้างเชิงลึกในแต่ละรายอุตสาหกรรม เพื่อให้แต่ละอุตสาหกรรมนั้นสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ที่สำคัญภาครัฐจะได้เข้ามาบูรณาการที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยหลังจากนี้จะมีการเวิร์คชอปกันอีกหลายครั้ง เพื่อเจาะลึกในรายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความเร่งด่วo
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า เป้าหมายการส่งออกร้อยละ 15 ที่ตั้งเอาไว้จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายกฯกล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในสถานการณ์นี้ แต่เราไม่อยากเห็นภาพที่พอมีปัญหาแล้วก็มองที่ตั้งเป้า เพราะเราคิดว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนก็ขอทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เป้าหมายอันนี้บรรลุให้ได้ ทั้งนี้ เราต้องทำงานอย่างใกล้ชิด และปรับตัวให้เร็ว เป้าหมายนี้ก็น่าจะเป็นไปได้
ต่อข้อถามว่าหากไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ตรงนี้จะมีผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบพร้อมกับตั้งคำถามว่า ทำไมทุกอย่างต้องมามองตรงนี้ ตนไม่อยากให้มองแบบนั้น เพราะการทำงานทุกอย่างนั้น บางครั้งมีทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้ และปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ แต่เป็นปัญหาเศรษฐกิจจากต่างประเทศ ก็คงต้องให้ความเห็นใจต่อผู้ที่ทำงาน และทุกภาคส่วน เพราะวันนี้แม้กระทั่งต่างประเทศเองก็ยังแก้ปัญหายากเลย สำหรับประเทศไทยเองก็อยู่ในส่วนที่เราจะต้องไปดูว่า เราจะรับผลกระทบจากตรงนั้นอย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากเหตุการณ์เศรษฐกิจต่างๆที่ผ่านมา หลายอุตสาหกรรมก็ได้มีการปรับตัว ตนคิดว่า เรามาทำงานกันแต่เนิ่นๆ ก็น่าจะมีผลกระทบน้อยกว่าที่คาดไว้