ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการรับมือเออีซี สำหรับอุตสาหกรรมไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือน ว่าการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมี 12 สาขาธุรกิจที่เริ่มต้นก่อน ซึ่งอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนรวมอยู่ด้วย โดยปัจจุบันไทยมีอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 12,000 โรงงาน ร้อยละ 95 เป็นเอสเอ็มอี ซึ่งแม้จะมีจุดแข็งในอุตสาหกรรมไม้ แต่อยู่ที่การผลิตปลายน้ำ แต่ยังมีจุดอ่อนด้านวัตถุต้นน้ำ เพราะยังไม่มีศูนย์ป่าจากกฎหมายที่ยังล่าสมัย โดยในช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะสรุปโครงการที่ต้องดำเนินการ เพื่อรับกับการเกิดขึ้นของเออีซี เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยจะมีประมาณ 10 โครงการ เช่น ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยให้ออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน จุดตั้งกองทุนหรือให้การสนับสนุนผ่านธนาคารเพื่อการส่งออก และการนำเข้าแห่งประเทศไทย ส่งเสริมให้เดินหน้าเพิ่มการผลิต พร้อมกับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ส่วนอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนทั้งระบบ ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ทันกับการแข่งขันในประเทศอื่นๆ แม้ว่าอัตราการเติบโตและยอดการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง ยังไม่ครอบคลุมในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งไทยจะต้องหันมาเจาะตลาดกลุ่มอาเซียนมากขึ้น