นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงวิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยุโรปที่มีแนวโน้มดีขึ้นหลังการออกมาตรการดูแล ซึ่งทำให้ทั่วโลกมีความมั่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรงและมีผลกระทบมากว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามภาครัฐได้กำชับให้ออกมาตรการในการดูแล 6 ด้าน ทั้งการเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนการดูแลการตลาดด้านการส่งออกนั้นจะมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน หรือ ปัญหาทางเศรษฐกิจ และให้ทางสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่กระทรวงการคลังดูแลเข้าไปกำกับ และดูแลผู้ส่งออก เพื่อส่งเสริมอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตามวงเงินที่เคยอนุมัติไปที่ 140,000 ล้านบาท รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด มี 3 สินค้า ประกอบด้วย สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม อัญมณี และอิเล็กทรอนิกส์ และหนึ่งสินค้าเกษตรที่ต้องจับตา คือ ยางพารา