หลังจากสภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการวาระแรก ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภาคเอกชนเห็นว่า เป็นสัญญาณที่เริ่มต้นได้ดี นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประเมินว่า การผลักดันกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ น่าจะแล้วเสร็จก่อนเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งจะทันที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ FATF จะต้องทบทวนสถานะของไทย จากระดับที่ต้องเฝ้าระวังเป็นการขึ้นบัญชีดำ ในเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และโล่งใจที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะอาจจะต้องนับหนึ่งใหม่ ในการเสนอกฎหมายเหมือนเช่นอดีต หากประกาศไม่ทัน ไทยอาจถูกจัดไปอยู่อันดับซูเปอร์แบล็กลิสต์ ซึ่งจะถูกเข้มงวดทางการเงินสูงสุด
หลังจากนี้ ร่างกฎหมาย 2 ฉบับ จะส่งให้คณะกรรมาธิการวิสามัญแปรญัตติ พิจารณารายละเอียดภายใน 15 วัน ก่อนนำกลับมาให้สภาฯ ลงมติในวาระ 2 และ 3 เสนอให้วุฒิสภาพิจารณาอีก 3 วัน ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย คาดว่าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน
ขณะที่นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และโล่งใจที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะอาจจะต้องนับหนึ่งใหม่ ในการเสนอกฎหมายเหมือนเช่นอดีต หากประกาศไม่ทัน ไทยอาจถูกจัดไปอยู่อันดับซูเปอร์แบล็กลิสต์ ซึ่งจะถูกเข้มงวดทางการเงินสูงสุด
หลังจากนี้ ร่างกฎหมาย 2 ฉบับ จะส่งให้คณะกรรมาธิการวิสามัญแปรญัตติ พิจารณารายละเอียดภายใน 15 วัน ก่อนนำกลับมาให้สภาฯ ลงมติในวาระ 2 และ 3 เสนอให้วุฒิสภาพิจารณาอีก 3 วัน ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย คาดว่าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน
