ตำรวจชุดปราบจลาจล 3 กองร้อย หรือ 450 นาย ร่วมซ้อมแผนยุทธวิธีควบคุมฝูงชน โดยจำลองสถานการณ์เสมือนจริงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าในพื้นที่หวงห้าม และพื้นผิวการจราจร ทั้งนี้ได้มีการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักตามหลักสากลคือ แสดงกำลังการแจ้งเตือนการบังคับด้วยร่างกาย ใช้โล่ การจับกุมด้วยมือเปล่า การใช้เครื่องพันธการใช้คลื่นเสียงแรงดันน้ำแก๊สน้ำตา
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 แสดงความพอใจหลังการฝึกซ้อม โดยเปิดเผยว่า การฝึกวันนี้ ( 5 มิ.ย.) แตกต่างจาก 2 วัน ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน แต่ยอมรับว่า ครั้งนี้ยังมีปัญหาเสียงของผู้สั่งการที่ไม่ดังพอ ทำให้ผู้ชุมนุมไม่ได้ยินขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.วรพงษ์ ยืนยันว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ไม่ได้นำไปใช้เฉพาะการเปิดเส้นทางให้ ส.ส.ไปประชุมในรัฐสภาเท่านั้น แต่สามารถนำไปปรับใช้กับการชุมนุมทุกรูปแบบทุกพื้นที่ และไม่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ส่วนการประเมินสถานกาณ์กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่พบการเคลื่อนไหว แต่จะไม่ประมาทแต่อย่างใด
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 แสดงความพอใจหลังการฝึกซ้อม โดยเปิดเผยว่า การฝึกวันนี้ ( 5 มิ.ย.) แตกต่างจาก 2 วัน ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน แต่ยอมรับว่า ครั้งนี้ยังมีปัญหาเสียงของผู้สั่งการที่ไม่ดังพอ ทำให้ผู้ชุมนุมไม่ได้ยินขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.วรพงษ์ ยืนยันว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ไม่ได้นำไปใช้เฉพาะการเปิดเส้นทางให้ ส.ส.ไปประชุมในรัฐสภาเท่านั้น แต่สามารถนำไปปรับใช้กับการชุมนุมทุกรูปแบบทุกพื้นที่ และไม่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ส่วนการประเมินสถานกาณ์กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่พบการเคลื่อนไหว แต่จะไม่ประมาทแต่อย่างใด