พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมระดับผู้กำกับการ ในหน่วยงานสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อมอบนโยบายตามที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ดำเนินการ ซึ่งวาระการประชุม ประกอบไปด้วย การช่วยเหลือประชาชนด้านมาตรการเชิงรุก การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนสอบสวน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุกโดยประชาชนมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากราชการ
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ 4 หลัก คือ การยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจหลัก การพัฒนางานตำรวจให้โปร่งใส มีมาตรฐาน การมีส่วนร่วมของประชาชนและเครือข่ายการปฏิบัติงานของตำรวจ และการสร้างความเข้มแข็งในการบริหาร เพื่อเป็นไปอย่างมีทิศทาง
พล.ต.อ.ปานศิริ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับผู้กำกับการขึ้นไปว่า เป็นการมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี 7 มาตรการสำคัญที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับ ได้แก่ งานสืบสวนป้องกันอาชญากรรม ซึ่งปัจจุบัน สถิติการก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนมีเพิ่มมากขึ้น จึงสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้านายสถานี ควบคุมคลี่คลายและป้องกันเหตุ รวมถึงคดีค้างเก่า และการปราบปรามอบายมุข โดยเฉพาะตู้ม้า
นอกจากนี้ ในช่วงเปิดเทอม ให้ดูแลเรื่องการจราจรที่มีปัญหาหนาแน่น อาทิ บริเวณหน้าสถาบันการศึกษา ให้จัดเจ้าหน้าที่จราจรเพื่ออำนวยความสะดวก ลดการจราจรติดขัด อีกทั้งปัญหานักเรียนตีกัน โดยแต่ละท้องที่จะต้องสอดส่องป้องกันในจุดเสี่ยง เช่น ศูนย์การค้า และให้ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่นอกหน่วยเข้ามาจับกุมในพื้นที่ ซึ่งหากพบว่าท้องที่หละหลวมในการปฏิบัติงาน ก็จะพิจารณาลงโทษทางวินัย
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ 4 หลัก คือ การยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจหลัก การพัฒนางานตำรวจให้โปร่งใส มีมาตรฐาน การมีส่วนร่วมของประชาชนและเครือข่ายการปฏิบัติงานของตำรวจ และการสร้างความเข้มแข็งในการบริหาร เพื่อเป็นไปอย่างมีทิศทาง
พล.ต.อ.ปานศิริ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับผู้กำกับการขึ้นไปว่า เป็นการมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี 7 มาตรการสำคัญที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับ ได้แก่ งานสืบสวนป้องกันอาชญากรรม ซึ่งปัจจุบัน สถิติการก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนมีเพิ่มมากขึ้น จึงสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้านายสถานี ควบคุมคลี่คลายและป้องกันเหตุ รวมถึงคดีค้างเก่า และการปราบปรามอบายมุข โดยเฉพาะตู้ม้า
นอกจากนี้ ในช่วงเปิดเทอม ให้ดูแลเรื่องการจราจรที่มีปัญหาหนาแน่น อาทิ บริเวณหน้าสถาบันการศึกษา ให้จัดเจ้าหน้าที่จราจรเพื่ออำนวยความสะดวก ลดการจราจรติดขัด อีกทั้งปัญหานักเรียนตีกัน โดยแต่ละท้องที่จะต้องสอดส่องป้องกันในจุดเสี่ยง เช่น ศูนย์การค้า และให้ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่นอกหน่วยเข้ามาจับกุมในพื้นที่ ซึ่งหากพบว่าท้องที่หละหลวมในการปฏิบัติงาน ก็จะพิจารณาลงโทษทางวินัย