“ปานศิริ” สั่งนครบาลเร่งปราบอาชญากรรม-อบายมุข

รอง ผบ.ตร.มอบนโยบายนครบาล เน้น ผกก.ทุกโรงพักปราบปรามอาชญากรรม อบายมุข บ่อนการพนัน จัดการจราจรรองรับเปิดเทอม ขู่พื้นที่ไหนปล่อยปละละเลยเชือดทันที

วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.เดินทางมอบนโยบายด้านการบริหารให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. และผู้กำกับการทุกสถานีเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ปานศิริเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การประชุมในครั้งนี้ได้มอบนโยบายทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ 1. เรื่องการสืบสวนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เนื่องจากขณะนี้คดีที่เกิดขึ้นจากการใช้อาวุธปืนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ ไม่เฉพาะแต่ใน บช.น. ดังนั้น ผกก.แต่ละโรงพักจะต้องวางแผนการป้องกันในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งการติดตามตัวคนร้าย โดยเฉพาะคดีหมายจับค้างเก่าต้องเร่งรัดคลี่คลายให้หมดไป 2. เรื่องอบายมุข ได้เน้นย้ำการปราบปรามบ่อนการพนันตู้ม้า โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือกำชับมาแล้วว่า ให้ผกก.แต่ละโรงพักต้องมีการสืบสวนหาข่าวในเรื่องอบายมุข รวมทั้งลงไปตรวจสอบพื้นที่ ไม่ปล่อยปละละเลย ถ้าพบว่ามีสิ่งเหล่านี้ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดการได้ทันที

ส่วนเรื่องที่ 3 ช่วงใกล้เปิดเทอม ให้เน้นย้ำในเรื่องการจัดการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชน เมื่อเด็กนักเรียนเปิดเทอม การจราจรก็จะหนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะหน้าสถานศึกษาที่ผู้ปกครองไปรับ-ส่งบุตรหลาน ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหญิงเข้าไปช่วยดูแล พร้อมทั้งเรื่องที่ต้องเตรียมรับมือก็คือปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน ตนได้สั่งการให้ ผกก.ทุกโรงพักไปขอความร่วมมือจากสถาบันต่างๆ ให้ช่วยป้องกันก่อนที่เหตุจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเส้นทางต่างๆ ที่รถประจำทางวิ่งผ่าน รวมทั้งศูนย์การค้าที่กลุ่มนักเรียนมักจะไปรวมตัวกัน กรณีที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าไประงับเหตุทันที เรื่องสุดท้ายที่เน้นย้ำก็คือ ผกก.ทุกโรงพักจะต้องอยู่ประจำสถานีตำรวจ และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา หากทิ้งพื้นที่ไปและไม่สามารถเรียกตัวมาได้ กรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น ถือว่าเป็นความบกพร่อง

ทั้งนี้ เมื่อถามว่า หากมีการปล่อยปะละเลยให้เกิดอบายมุขหรือทิ้งพื้นที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด หมายถึงการลงโทษหัวหน้าสถานีตำรวจใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้ออกหนังสือกำชับเกี่ยวกับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่นอกหน่วยเข้ามาจับกุม ก็จะมีมาตรการลงโทษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระดับสถานีตำรวจ ระดับกองบังคับการ แม้แต่ในระดับ บช.น.เองก็ต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน