การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม ที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือติดลบร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ปี 2554 ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของผู้ส่งออก โดยนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ การผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จากผลกระทบน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว และที่ผ่านมาไทยขยายตลาดส่งออกไปยังอาเซียนมากขึ้น แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้เป็นผู้บริโภคสินค้าเอง เพราะต้องส่งต่อไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งเศรษฐกิจยังคงซบเซา ดังนั้น การส่งออกไทยจึงได้รับผลกระทบ
ขณะที่ผู้บริโภครายใหญ่นอกอาเซียน อย่างอินเดีย และจีน ยังคงเผชิญกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นกัน
นายไพบูลย์ ระบุว่า ค่อนข้างเป็นห่วงการส่งออกครึ่งปีหลัง เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่างๆ ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ค่าแรงงาน ค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า ซึ่งแม้สินค้าไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทุกประเทศก็ย่อมต้องรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย
สอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่า ช่วงที่เหลือของปี 2555 การส่งออกจะถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรป การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนของราคาน้ำมัน ตลอดจนการปรับค่าแรง และราคาพลังงานภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า การส่งออกในไตรมาสที่ 2 ของไทยจะดีขึ้นเพราะการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม ส่วนการส่งออกทั้งปี คาดว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 7-15
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้ เพราะมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่สนับสนุนการบริโภคและการลงทุนในประเทศให้เร่งตัวขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่ร้อยละ 5-6
ขณะที่ผู้บริโภครายใหญ่นอกอาเซียน อย่างอินเดีย และจีน ยังคงเผชิญกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นกัน
นายไพบูลย์ ระบุว่า ค่อนข้างเป็นห่วงการส่งออกครึ่งปีหลัง เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่างๆ ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ค่าแรงงาน ค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า ซึ่งแม้สินค้าไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทุกประเทศก็ย่อมต้องรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย
สอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่า ช่วงที่เหลือของปี 2555 การส่งออกจะถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรป การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนของราคาน้ำมัน ตลอดจนการปรับค่าแรง และราคาพลังงานภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า การส่งออกในไตรมาสที่ 2 ของไทยจะดีขึ้นเพราะการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม ส่วนการส่งออกทั้งปี คาดว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 7-15
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้ เพราะมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่สนับสนุนการบริโภคและการลงทุนในประเทศให้เร่งตัวขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่ร้อยละ 5-6
