กรมป่าไม้ยืนยันน้อมนำพระราชดำริปลูก-รักษาป่าต้นน้ำ

นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ระบุว่า ขณะนี้ป่าไม้ทั่วโลกเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ผืนป่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดอยู่ที่ประเทศรัสเซีย บราซิล แคนาดา จีน และอินโดนีเซีย ส่วนพื้นที่ป่าของไทยเหลืออยู่ร้อยละ 33 แต่ขณะนี้ภัยคุกคามจากน้ำมือมนุษย์ ทั้งการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน รีสอร์ท รุกล้ำพื้นที่ป่ามากขึ้น เป็นต้นเหตุภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ทั้งนี้ วันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันป่าไม้โลก กรมป่าไม้จะน้อมนำพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการดูแลรักษาต้นน้ำ ปลูกไม้โตช้า-โตเร็ว สลับกัน รวมถึงจะมีการปฏิรูปที่ดินทำกินให้ชาวบ้านเป็นผู้ดูแลรักษาป่า และทำฝายน้ำล้น เพื่อที่จะฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ 8 ลุ่มน้ำหลัก ได้แก่ ปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยา และท่าจีน โดยตั้งเป้าจะฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ให้ได้ 10 ล้านไร่ จากป่าไม้ที่เสียหายไปแล้วกว่า 21 ล้านไร่ และต้องใช้เวลาในการเข้าไปฟื้นฟู
ส่วนการปราบปรามผู้บุกรุกป่า ที่ป่าวังน้ำเขียว และป่าภูหลวง โซน C มีตัวเลขผู้บุกรุก 43 ราย กว่า 1,400 ไร่ โดยในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะลงพื้นที่ จ.ลำปาง และเชียงราย หลังสำรวจพบการตัดไม้ ถางป่า ตลอดสองข้างทาง จังหวัดละกว่า 1,000 ไร่ ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะกำหนดวันลงพื้นที่ต่อไป
นอกจากนี้ กรมป่าไม้ เรียกร้องให้แก้กฎหมาย ลดขั้นตอนการปราบปรามขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ให้ใช้เวลาพิจารณาลงโทษเห็นผลรวดเร็ว จากปัจจุบันคดีหนึ่งๆ ใช้เวลาถึง 5 ปี