ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ รับฟังสภาพปัญหาภายในท่าอากาศยานตรัง โดยมี นายถาวร แสงอำไพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานตรัง ให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมลานจอดเครื่องบิน และทางขับของท่าอากาศยาน
ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยานตรัง สามารถรองรับเครื่องบิน ขนาด 150 ที่นั่ง หรือเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 2 ลำในเวลาเดียวกัน หากมีภารกิจรับเสด็จ ภารกิจด้านการทหาร ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ในเวลาเดียวกันหรือเวลาใกล้เคียงกับเที่ยวบินโดยสาร จะทำให้ลานจอดเครื่องบินมีไม่เพียงพอ เกิดปัญหาการจัดการ ประกอบกับท่าอากาศยานตรังมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น จ.ตรัง ขอเสนองบประมาณขยายลานจอดเครื่องบิน และก่อสร้างทางขับท่าอากาศยานตรัง พร้อมท่อลอดรางระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าสนามบิน รวมทั้งสิ้น 95 ล้านบาท เพื่อพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จ.ภูเก็ต วันนี้
ทั้งนี้ หลังจากตรวจท่าอากาศยานตรัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมประชุม รับฟังปัญหาสภาอุตสาหกรรม จ.ตรัง โดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ยื่นขอความช่วยเหลือ จำนวน 3 ข้อ คือ ขอให้ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา และไม้ยางแปรรูป ขอให้ช่วยลดขั้นตอนการพิจารณาออกใบอนุญาตโรงงาน และช่วยเหลือปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรมใน จ.ตรัง ที่กำลังเข้าภาวะวิกฤต และของบประมาณในโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งยังขาดระบบประปาเข้าสู่ท่าเทียบเรือคลองสน จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นข้อมูลไปสู่การพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2555
ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยานตรัง สามารถรองรับเครื่องบิน ขนาด 150 ที่นั่ง หรือเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 2 ลำในเวลาเดียวกัน หากมีภารกิจรับเสด็จ ภารกิจด้านการทหาร ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ในเวลาเดียวกันหรือเวลาใกล้เคียงกับเที่ยวบินโดยสาร จะทำให้ลานจอดเครื่องบินมีไม่เพียงพอ เกิดปัญหาการจัดการ ประกอบกับท่าอากาศยานตรังมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น จ.ตรัง ขอเสนองบประมาณขยายลานจอดเครื่องบิน และก่อสร้างทางขับท่าอากาศยานตรัง พร้อมท่อลอดรางระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าสนามบิน รวมทั้งสิ้น 95 ล้านบาท เพื่อพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จ.ภูเก็ต วันนี้
ทั้งนี้ หลังจากตรวจท่าอากาศยานตรัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมประชุม รับฟังปัญหาสภาอุตสาหกรรม จ.ตรัง โดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ยื่นขอความช่วยเหลือ จำนวน 3 ข้อ คือ ขอให้ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา และไม้ยางแปรรูป ขอให้ช่วยลดขั้นตอนการพิจารณาออกใบอนุญาตโรงงาน และช่วยเหลือปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรมใน จ.ตรัง ที่กำลังเข้าภาวะวิกฤต และของบประมาณในโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งยังขาดระบบประปาเข้าสู่ท่าเทียบเรือคลองสน จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นข้อมูลไปสู่การพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2555
