ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตตั้งวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว แทนวิทยาลัยเทคนิคถลาง ผลิตนักเรียน นักศึกษาระดับ ปวช.-ปวส.รองรับความต้องการของสถานประกอบการด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวของภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดอันดามันที่ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือเป็นอย่างมาก เตรียมเสนอเข้าครม.สัญจร อนุมัติงบ 300 ล้าน เริ่มเปิดให้มีการเรียนการสอนปีการศึกษาแรก พ.ค.2555
นายสุเทพ ยงยุทธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวคิดการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยเทคนิคถลางปัจจุบัน ซึ่งเน้นสาขาช่างฝีมือ ให้พัฒนาเป็นวิทยาลัยการโรงแรมและท่องเที่ยวภูเก็ตว่า สำหรับการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคถลางในสภาพปัจจุบัน ซ้ำซ้อนกับวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ตในระบบช่างอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนนักเรียนนักศึกษาที่เข้ามาศึกษามีน้อยไม่คุ้มต่อการจัดการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาทุกชั้นปี จำนวน 350 คน เปิดสอนในระดับ ปวช.และ ปวส.ประเภทวิชาช่าง-อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ
แต่จากการพิจารณาสภาพความเป็นจิรงตามสภาพพื้นที่ ซึ่งวิทยาลัยเทคนิคถลางอยู่ใกล้สนามบิน และอยู่ในแหล่งสถานประกอบการธุรกิจทางด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ทางวิทยาลัยจึงมีแนวคิดที่จะปรับหลักสูตรของวิทยาลัยเทคนิคถลางจากเดิม มาเป็นวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยวภูเก็ต ทั้งนี้ จากการประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ ตัวแทนผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม มาแล้วหลายครั้งมีความเห็นตรงกันว่าน่าจะพัฒนาให้เป็นวิทยาลัยการโรงแรมและท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติร่วมปีละแสนล้านบาท เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถพัฒนาได้เต็มรูปแบบ ก็จะเป็นสถานที่ฝึกพัฒนาบุคลากรด้านการโรงแรม และการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต
“และจากการที่ทางวิทยาลัยเทคนิคถลางได้นำเสนอโครงการวิทยาลัยการโรงแรมและท่องเที่ยวภูเก็ต สู่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ สอศ.ก็ได้รับการตอบรับโดย ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งได้ลงตรวจสภาพพื้นที่ทั้งหมดของวิทยาลัย ลงความเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะพัฒนาให้เป็นวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยวภูเก็ต ในอนาคต ขณะที่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้รับการตอบสนองจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต”
นายสุเทพกล่าวต่อไปว่า ในการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดภูเก็ตจะนำโครงการฯ ดังกล่าวนี้ เข้าสู่การประชุม ครม.สัญจร ด้วย หากได้รับการอนุมัติงบประมาณตามที่ได้เสนอไป จะทำให้วิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยวภูเก็ต สามารถผลิตนักศึกษาระดับ ปวช.และปวส.ได้ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ และเป็นสถาบันต้นแบบในการเรียนการสอนสาขาวิชาด้านการโรงแรมและบริการในระดับ ปวช.ที่เปิดการเรียนการสอนเป็นMini English Program และEnglish Programในระดับ ปวส.
โดยมุ่งเน้นการเรียนการสอนทางด้านปฏิบัติการ เป็นสถาบันการจัดการเรียนการสอนด้านการโรงแรมชั้นนำของอาเซียน และเป็นศูนย์ฝึกอบรมสาขาวิชาด้านการโรงแรมและสาขาที่เกี่ยวข้องแก่บุคคลในท้องถิ่นและภายนอก คิดว่าโครงการนี้ทำให้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตตลอดจนฝั่งอันดามัน พังงา กระบี่ ระนอง ที่มีปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมืออย่างมาก ก็คงจะลดลงไปพอสมควร เพราะว่าบุคลากรมีประสิทธิภาพ สามารถพูดภาษาอังกฤษ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นความต้องการของสถานประกอบการทุกประการ”
โดยในปีการศึกษาแรก 2555 จะเริ่มเปิดให้มีการเรียนการสอนเดือนพฤษภาคม ระดับปวช.ในสาขาวิชาการโรงแรม และสาขาวิชาการท่องเที่ยว สามารถรับนักศึกษาได้ 90 คน และระดับ ปวส.สาขาวิชาการโรงแรมและการบริการ สามารถเปิดรับนักศึกษา ได้ 30 คน ซึ่งตอนนี้ทางสอศ.กำลังดำเนินการจัดหาครูต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรดังกล่าวที่ทางวิทยาลัยได้มีการทำความร่วมมือปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม สำหรับสาขาวิชาที่เปิดสอนที่วิทยาลัยการโรงแรมและท่องเที่ยวนั้น เมื่อโครงการปรับปรุงอาคารและการติดตั้งอุปกรณ์ปฏิบัติการ ฯลฯ เสร็จสมบูรณ์ จะมีการเปิดสอนระดับ ปวช. (Mini EP) สาขาวิชาการโรงแรม การท่องเที่ยว คหกรรม คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิชาการสปา และสาขาวิชาการจัดการทั่วไป ส่วนในระดับ ปวส.(EP) เปิดสอนสาขาวิชาการโรงแรมและบริการ การจัดการครัวและศิลปะอาหาร การจัดการสปา และสาขาวิชาการจัดการประชุมและสัมมนา
นายสุเทพกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการพัฒนาหลักสูตรดังกล่าวแล้ว รูปแบบของอาคารเรียนและห้องปฏิบัติการต่างๆ ก็จะต้องทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นเสมือนโรงแรมจริงทุกประการ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านการโรงแรมมาช่วยออกแบบ ให้แนวคิดในเรื่องของการพัฒนาห้องเรียนต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของโรงแรม ซึ่งจะใช้งบประมาณโครงการฯ ปีงบประมาณ 2555-2557 ประมาณ 300 ล้านบาท