พื้นที่หมู่ 3 บ้านเขาแหลม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ล่าสุดที่ถูกไฟไหม้ใน อ.สวนผึ้ง อาสาสมัครกว่า 30 คนต้องช่วยกันดับไฟในจุดที่เรียกว่า ยอดเขาแหลม ยอดเขาที่สูงที่สุดใน อ.สวนผึ้ง และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1A ไปแล้วกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ แต่ไฟป่าเกิดก่อนหน้านี้หลายจุด เป็นเวลาเกือบเดือน ทำให้มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ อ.สวนผึ้ง และอำเภอใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่อุทยานธรรมชาติวิทยา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กว่า 6-7 หมื่นไร่
นายสุเทพ ไกรสุข หัวหน้าโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา อ.สวนผึ้ง เปิดเผยว่า พื้นที่โครงการถูกไฟไหม้ทั้งหมดแล้ว
ด้านนายบุหลัน รันตี ประธานกลุ่มคนรักเขากระโจม หนึ่งในอาสาสมัครดับไฟป่า เปิดเผยว่า ไฟไหม้ป่าใน อ.สวนผึ้ง ปีนี้รุนแรงกว่าทุกปี เนื่องจากอากาศร้อนจัด เพราะมีเพียงกลุ่มอาสาสมัครเท่านั้นที่มาช่วยกันดับไฟ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่จากท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง หรือทหาร ที่รับผิดชอบในพื้นที่มาช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุของไฟป่าไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเผาของบุคคลที่ต้องการเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อเข้ามาทำประโยชน์ในที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง สังเกตุได้จาก พื้นที่เกิดไฟไหม้กระจายตามที่ผู้หวังเข้าใช้ประโยชน์ต้องการ
ระหว่างเข้าตรวจสอบไฟไหม้ป่าบริเวณทางขึ้นยอดเขาแหลม อ.สวนผึ้ง พบว่าบางจุดมีร่องรอยการตัดไม้และแปรรูปไม้ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1A โดยพบร่องรอยการแปรรูปไม้ประดู่และไม้ยาง ถือเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยพื้นที่นี้ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ มอบกองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลพื้นที่
นายสุเทพ ไกรสุข หัวหน้าโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา อ.สวนผึ้ง เปิดเผยว่า พื้นที่โครงการถูกไฟไหม้ทั้งหมดแล้ว
ด้านนายบุหลัน รันตี ประธานกลุ่มคนรักเขากระโจม หนึ่งในอาสาสมัครดับไฟป่า เปิดเผยว่า ไฟไหม้ป่าใน อ.สวนผึ้ง ปีนี้รุนแรงกว่าทุกปี เนื่องจากอากาศร้อนจัด เพราะมีเพียงกลุ่มอาสาสมัครเท่านั้นที่มาช่วยกันดับไฟ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่จากท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง หรือทหาร ที่รับผิดชอบในพื้นที่มาช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุของไฟป่าไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเผาของบุคคลที่ต้องการเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อเข้ามาทำประโยชน์ในที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง สังเกตุได้จาก พื้นที่เกิดไฟไหม้กระจายตามที่ผู้หวังเข้าใช้ประโยชน์ต้องการ
ระหว่างเข้าตรวจสอบไฟไหม้ป่าบริเวณทางขึ้นยอดเขาแหลม อ.สวนผึ้ง พบว่าบางจุดมีร่องรอยการตัดไม้และแปรรูปไม้ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1A โดยพบร่องรอยการแปรรูปไม้ประดู่และไม้ยาง ถือเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยพื้นที่นี้ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ มอบกองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลพื้นที่
