ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2555 ผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใช้ในงานก่อสร้าง อาทิ กระเบื้องปูพื้น บุพนัง เครื่องสุขภัณฑ์ เพื่อการจำหน่ายในประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 27,000 ล้านบาท และขยายตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 4-7 เนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในการฟื้นฟูบ้านเรือน หลังสถานการณ์น้ำท่วมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ทั้งนี้ การส่งออกอาจลดลงจากปีที่ผ่านมาเพราะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ส่งผลให้มูลค่าส่งออกจะขยายตัวสูงสุดไม่เกินร้อยละ 5
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในอุตสาหกรรมเซรามิก ได้แก่ การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง รวมไปถึงการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และการออกมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบของการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มประเทศในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงการแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม ที่เข้ามาตีตลาดในประเทศจำนวนมาก
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในอุตสาหกรรมเซรามิก ได้แก่ การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง รวมไปถึงการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และการออกมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบของการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มประเทศในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงการแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม ที่เข้ามาตีตลาดในประเทศจำนวนมาก