นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวสรุปผลการจัดงาน BOI FAIR 2011 รวมพลังน้ำใจโลกสดใส ไทยยั่งยืน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "รวมพลังน้ำใจ โลกสดใส ไทยยั่งยืน" หรือ Going Green for the Future ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 5-22 มกราคม 2555 รวม 18 วัน ว่า วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 บนพื้นที่กว่า 240,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยงานนิทรรศการกลางแจ้ง และงานนิทรรศการในอาคาร ซึ่งภาพรวมประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจมียอดผู้ชมงาน 2.6 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 ล้านคน อาจเป็นเพราะผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมา นอกจากนี้ การจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นแหล่งลงทุนสำหรับนักลงทุน และตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นและเกาหลี และอีกหลายชาติระบุว่า จะยังคงลงทุนในไทยต่อไป โดยปีนี้บีโอไอตั้งเป้าหมายว่า จะมีนักลงทุนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน ที่จำนวน 600,000 ล้านบาท จากที่ปี 2554 มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน รวม 670,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 500,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 32
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวอีกว่า ด้านการจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในงานประสบผลสำเร็จเกินเป้าหมาย โดยบริษัทขนาดใหญ่จับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยรวม 1,400 คู่ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท การจัดงานปล่อยคาร์บอนออกสู่สิ่งแวดล้อมต่ำกว่างานทั่วไปถึงร้อยละ 50 ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงการให้ความสำคัญดูแลสิ่งแวดล้อม และหากรวมกับการปลูกป่ากับ บริษัท ดับเบิลเอ ที่จะปลูกในอนาคตอันใกล้นี้อีก 170,000 ต้น จะทำให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่สิ่งแวดล้อมมีค่าเท่ากับศูนย์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายหลังขยายเวลาการจัดงานอีก 2 วันคือเมื่อวานนี้และวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ประชาชนเดินทางเข้าเที่ยวชมงานอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนเซ่นไหว้บรรพบุรุษและฉลองภายในครอบครัว รวมถึงบางส่วนออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ จึงทำให้ผู้เข้าชมงานในวันนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวอีกว่า ด้านการจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในงานประสบผลสำเร็จเกินเป้าหมาย โดยบริษัทขนาดใหญ่จับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยรวม 1,400 คู่ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท การจัดงานปล่อยคาร์บอนออกสู่สิ่งแวดล้อมต่ำกว่างานทั่วไปถึงร้อยละ 50 ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงการให้ความสำคัญดูแลสิ่งแวดล้อม และหากรวมกับการปลูกป่ากับ บริษัท ดับเบิลเอ ที่จะปลูกในอนาคตอันใกล้นี้อีก 170,000 ต้น จะทำให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่สิ่งแวดล้อมมีค่าเท่ากับศูนย์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายหลังขยายเวลาการจัดงานอีก 2 วันคือเมื่อวานนี้และวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ประชาชนเดินทางเข้าเที่ยวชมงานอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนเซ่นไหว้บรรพบุรุษและฉลองภายในครอบครัว รวมถึงบางส่วนออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ จึงทำให้ผู้เข้าชมงานในวันนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร