นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยปีที่ผ่านมา กระทบต่อภาพรวมการส่งออกปี 2554 ประมาณ 13,000-16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นอัตราการส่งออกเติบโตลดลงร้อยละ 6.8-8.3 ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2554 ขยายตัวเพียงร้อยละ 16.9 และคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้การส่งออกปี 2555 ชะลอตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวร้อยละ 6.8-13.7 หรือคิดเป็นมูลค่า 240,000-259,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 30 เดือน
สำหรับกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะไม่สดใสและมีแนวโน้มชะลอตัวมากถึงขั้นหดตัว ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์และรองเท้า ส่วนกลุ่มสินค้าที่คาดว่ามีโอกาสขยายตัว ได้แก่ ยานยนต์ และชิ้นส่วน ยางพารา เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ข้าว อาหารกระป๋องและแปรรูป มันสำปะหลัง ขณะที่ปัญหาภัยธรรมชาติจะส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรโดยรวมมีราคาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดใหม่ของไทย เช่น จีน อินเดีย อาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม อเมริกาใต้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ คาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 14.4 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง คือทิศทางราคาน้ำมัน การขึ้นค่าแรง ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ภัยธรรมชาติ และการเมือง
สำหรับกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะไม่สดใสและมีแนวโน้มชะลอตัวมากถึงขั้นหดตัว ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์และรองเท้า ส่วนกลุ่มสินค้าที่คาดว่ามีโอกาสขยายตัว ได้แก่ ยานยนต์ และชิ้นส่วน ยางพารา เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ข้าว อาหารกระป๋องและแปรรูป มันสำปะหลัง ขณะที่ปัญหาภัยธรรมชาติจะส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรโดยรวมมีราคาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดใหม่ของไทย เช่น จีน อินเดีย อาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม อเมริกาใต้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ คาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 14.4 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง คือทิศทางราคาน้ำมัน การขึ้นค่าแรง ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ภัยธรรมชาติ และการเมือง