นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยในงานแถลง ชีพจรเศรษฐกิจเอสเอ็มอีไทย ฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตน้ำท่วม ว่า เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจเอสเอ็มอี ไตรมาส 4 2554 จะหดตัวลงร้อยละ 1.5 จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากอุทกภัยครั้งใหญ่ แรงกดดันเงินเฟ้อ และต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง
โดยภาพรวมเศรษฐกิจของเอสเอ็มอี หรือจีดีพีเอสเอ็มอี ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 1.8-2 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4-4.2 และชะลอตัวลงจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.8 ขณะที่แนวโน้มในปี 2555 คาดว่า เศรษฐกิจประเทศจะเติบโต ร้อยละ 3.5-4.5 ส่วนจีดีพีเอสเอ็มอี จะเติบโตร้อยละ 3.8-4.2
นอกจากนี้ยังพบว่า มีเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กว่า 557,000 ราย คิดเป็นความเสียหาย กว่า 71,000 ล้านบาทต่อเดือน และกระทบต่อการจ้างงาน กว่า 2,300,000 คน
ทั้งนี้ สสว.เสนอมาตรการช่วยเหลือต่อรัฐบาล 3 ด้าน ได้แก่ มาตรการด้านการเงิน ให้สินเชื่อและร่วมทุน มาตรการสร้างผู้ประกอบการ และมาตรการพลิกฟื้นธุรกิจ
นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในรอบ 10 เดือนแรกของปีนี้ มีการจัดตั้งกิจการใหม่ กว่า 49,900 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 16 ส่วนการยกเลิกกิจการ 6,600 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 36
ด้านนายสมพงษ์ ตันเจริญผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยกระทบต่อเอสเอ็มอีกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใน 8 จังหวัด ประมาณ 10,000 แห่ง มูลค่าการลงทุนเสียหาย กว่า 800,000 ล้านบาท แรงงานเดือดร้อน กว่า 660,000 คน
ส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางเยียวยาและฟื้นฟูต่อภาครัฐ เช่น การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูอุตสาหกรรม ผ่อนปรนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งนำเงินออกจากกองทุนประกันสังคม เพื่อชดเชยให้ลูกจ้างในช่วงปิดกิจการชั่วคราว นอกจากนี้อุตสาหกรรมบางสาขาอาจจะต้องชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก อาหาร เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ ขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอ อัญมณี เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมยาง ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง
โดยภาพรวมเศรษฐกิจของเอสเอ็มอี หรือจีดีพีเอสเอ็มอี ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 1.8-2 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4-4.2 และชะลอตัวลงจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.8 ขณะที่แนวโน้มในปี 2555 คาดว่า เศรษฐกิจประเทศจะเติบโต ร้อยละ 3.5-4.5 ส่วนจีดีพีเอสเอ็มอี จะเติบโตร้อยละ 3.8-4.2
นอกจากนี้ยังพบว่า มีเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กว่า 557,000 ราย คิดเป็นความเสียหาย กว่า 71,000 ล้านบาทต่อเดือน และกระทบต่อการจ้างงาน กว่า 2,300,000 คน
ทั้งนี้ สสว.เสนอมาตรการช่วยเหลือต่อรัฐบาล 3 ด้าน ได้แก่ มาตรการด้านการเงิน ให้สินเชื่อและร่วมทุน มาตรการสร้างผู้ประกอบการ และมาตรการพลิกฟื้นธุรกิจ
นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในรอบ 10 เดือนแรกของปีนี้ มีการจัดตั้งกิจการใหม่ กว่า 49,900 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 16 ส่วนการยกเลิกกิจการ 6,600 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 36
ด้านนายสมพงษ์ ตันเจริญผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยกระทบต่อเอสเอ็มอีกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใน 8 จังหวัด ประมาณ 10,000 แห่ง มูลค่าการลงทุนเสียหาย กว่า 800,000 ล้านบาท แรงงานเดือดร้อน กว่า 660,000 คน
ส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางเยียวยาและฟื้นฟูต่อภาครัฐ เช่น การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูอุตสาหกรรม ผ่อนปรนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งนำเงินออกจากกองทุนประกันสังคม เพื่อชดเชยให้ลูกจ้างในช่วงปิดกิจการชั่วคราว นอกจากนี้อุตสาหกรรมบางสาขาอาจจะต้องชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก อาหาร เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ ขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอ อัญมณี เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมยาง ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง
