ชาวบ้านย่านรังสิตกว่า 300 คน รวมตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บริเวณสะพานแก้วรังสิต เพื่อรอฟังผลการเจรจาระหว่างนายดำรงชัย นันทปราโมทย์ ส.จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตัวแทนชาวชุมชนย่านรังสิต กับทาง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน การรวมตัวกันวันนี้เกิดขึ้นเนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจภาครัฐที่ไม่จัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ โดยปล่อยให้เครื่องสูบน้ำที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีทั้งหมด 16 เครื่องใช้การได้เพียงแค่ 2 เครื่องเท่านั้น ทำให้การระบายน้ำที่ท่วมขังมานานกว่า 2 เดือนไม่ทันการ จนทำให้น้ำเน่าเสีย พวกเขาจึงรวมตัวกันและขู่ว่า จะไปรื้อแนวบิ๊กแบ็กที่ย่านดอนเมืองเพื่อแก้ปัญหากันเอง
ปัญหาที่เกิดขึ้นทางรองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงว่า เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถเดินเครื่องสูบน้ำได้ หลังจากการเจรจาผ่านไปได้ข้อสรุปว่า ทางกรมชลฯ จะเข้าไปเร่งแก้ไขเครื่องสูบน้ำที่เสีย 14 ตัวให้แล้วเสร็จใน 3 วัน และจะซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำหน้าวัดสำแลที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้ชำรุดเป็นแนวใหญ่ประมาณ 100 เมตร ทำให้มีน้ำรั่วซึมเข้ามาในพื้นที่ด้วย นอกจากนั้นจะสร้างแนวคันกั้นน้ำที่สถานีรถไฟหลัก 6 ถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อไม่ให้น้ำที่สูบลงคลองเปรมประชากรไหลย้อนกลับเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง หลังจากรับทราบแนวทางแก้ปัญหาแล้ว ชาวบ้านที่รวมตัวกันก็พอใจผลการเจรจาและแยกย้ายกันกลับบ้าน
ปัญหาที่เกิดขึ้นทางรองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงว่า เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถเดินเครื่องสูบน้ำได้ หลังจากการเจรจาผ่านไปได้ข้อสรุปว่า ทางกรมชลฯ จะเข้าไปเร่งแก้ไขเครื่องสูบน้ำที่เสีย 14 ตัวให้แล้วเสร็จใน 3 วัน และจะซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำหน้าวัดสำแลที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้ชำรุดเป็นแนวใหญ่ประมาณ 100 เมตร ทำให้มีน้ำรั่วซึมเข้ามาในพื้นที่ด้วย นอกจากนั้นจะสร้างแนวคันกั้นน้ำที่สถานีรถไฟหลัก 6 ถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อไม่ให้น้ำที่สูบลงคลองเปรมประชากรไหลย้อนกลับเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง หลังจากรับทราบแนวทางแก้ปัญหาแล้ว ชาวบ้านที่รวมตัวกันก็พอใจผลการเจรจาและแยกย้ายกันกลับบ้าน