ศ.กิตติคุณ เดชาบุญค้ำ กรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตั้งถิ่นฐานและผังเมือง วุฒิสภา กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเคยมีการออกแบบผังเมือง เพื่อป้องกันน้ำท่วม และมีทางด่วนน้ำออกทะเลทั้งทางฝั่งตะวันออก และตะวันตกตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่ว่ากลับถูกนำไปปฏิบัติเพียงแค่บางส่วน และปล่อยให้ขยายเมืองในพื้นที่ทางน้ำผ่าน สร้างเป็นชุมชน เขตนิคมอุตสาหกรรม และสนามบิน ขวางเส้นทางน้ำออกสู่อ่าวไทย
เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมาธิการวิสามัญการตั้งถิ่นฐาน และการผังเมือง วุฒิสภา เตรียมเสนอให้รัฐบาลแก้กฎหมายผังเมือง และกำหนดเขตพื้นที่น้ำท่วมในเขตเมือง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในอนาคต มีข้อมูลว่า กรุงเทพมหานครเคยทำผังเมืองในปี 2511 ใช้วิธีการแบ่งเขตการปกครอง กระทั่งการขยายตัวของเมืองกินพื้นที่จากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ที่เคยมีพื้นที่จากเดิม 30 ตารางกิโลเมตร ขยายเป็น 80 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ปลูกข้าวในที่ราบลุ่ม เปลี่ยนเป็นหมู่บ้านจัดสรรกีดขวางทางน้ำไปเกือบหมด ตั้งแต่ตอนใต้ของเขตดอนเมืองลงมา จึงทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเส้นทางน้ำต้องวิ่งจากเหนือลงใต้ตามแรงโน้มถ่วง
นอกจากนี้ ต้องวางแผนระยะยาวในอีก 50 ปี 100 ปี ครอบคลุมลุ่มน้ำทั้ง 25 ลุ่มน้ำ เนื่องจากในอีก 30-40 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นและมีมากกว่า 75 ล้านคน ทำให้ต้องขยายเขตเมืองออกไปอีก ดังนั้นจึงต้องควบคุมเขตพื้นที่น้ำท่วมเอาไว้
เช่นเดียวกับความเห็นของคณะกรรมาธิการวิสามัญการตั้งถิ่นฐาน และการผังเมือง วุฒิสภา เตรียมเสนอให้รัฐบาลแก้กฎหมายผังเมือง และกำหนดเขตพื้นที่น้ำท่วมในเขตเมือง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในอนาคต มีข้อมูลว่า กรุงเทพมหานครเคยทำผังเมืองในปี 2511 ใช้วิธีการแบ่งเขตการปกครอง กระทั่งการขยายตัวของเมืองกินพื้นที่จากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ที่เคยมีพื้นที่จากเดิม 30 ตารางกิโลเมตร ขยายเป็น 80 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ปลูกข้าวในที่ราบลุ่ม เปลี่ยนเป็นหมู่บ้านจัดสรรกีดขวางทางน้ำไปเกือบหมด ตั้งแต่ตอนใต้ของเขตดอนเมืองลงมา จึงทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเส้นทางน้ำต้องวิ่งจากเหนือลงใต้ตามแรงโน้มถ่วง
นอกจากนี้ ต้องวางแผนระยะยาวในอีก 50 ปี 100 ปี ครอบคลุมลุ่มน้ำทั้ง 25 ลุ่มน้ำ เนื่องจากในอีก 30-40 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นและมีมากกว่า 75 ล้านคน ทำให้ต้องขยายเขตเมืองออกไปอีก ดังนั้นจึงต้องควบคุมเขตพื้นที่น้ำท่วมเอาไว้
