หนึ่งเดือนหลังจากกลุ่มต่อต้านนายทุนไม่กี่ร้อยคนรวมตัวตั้งแคมป์ในนิวยอร์ก มาวันนี้ขบวนการยึดวอลล์สตรีทโด่งดังไปทั่วโลก และกลายเป็นที่สนใจชนิดแม้แต่ทำเนียบขาวยังไม่อาจมองข้าม ถึงแม้ยังไม่มีใครรู้ว่าเป้าหมายข้างหน้าอยู่ที่ใดก็ตาม
วันจันทร์ (17) ผู้ประท้วงที่อยู่ในแคมป์ที่มีการจัดการอย่างดีในบริเวณสวนสาธารณะซุคคอตติ ใกล้กับวอลล์สตรีท เริ่มเดือนที่ 2 ของการเคลื่อนไหว โดยมีแผนติดตามผลการประท้วงใหญ่ที่ครอบคลุมทั้วทั้งย่านไทม์สแควร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แคมป์ดังกล่าวไม่ได้มีแค่สิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับชุมชนที่พำนักกันกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตั้งแต่ที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือจนถึงห้องสมุด โดยดาร์เรลล์ ปรินซ์ ผู้จัดการชุมนุมที่อยู่ในส่วนคณะกรรมการการเงิน เผยว่าขณะนี้มีเงินบริจาคในมือ 275,000 ดอลลาร์
จากเว็บไซต์ www.occupywallst.org เป้าหมายใหญ่ถัดไปอาจเป็นวันเสาร์นี้ (22) ในวาระ “วันประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจแห่งชาติ”
ขบวนการนี้ส่งผลกระทบกว้างใหญ่ไพศาล จุดประกายการประท้วงในลักษณะคล้ายกันทั่วสหรัฐฯ และนานาประเทศ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ในยุโรป เพื่อเผยแพร่สาส์นเดียวกันคือ ความชิงชังที่มีต่อความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจระหว่างคนรวยเปอร์เซ็นต์เดียวกับคนจนอีก 99%
แม้จำนวนผู้ชุมนุมยังไม่มากมายนัก โดยการประท้วงใหญ่ที่สุดมีผู้เข้าร่วม 10,000-20,000 คน แต่ขบวนการนี้เริ่มเป็นที่สนใจของนักการเมืองอาวุโส เนื่องจากใกล้ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันปลายปีหน้าเข้าไปทุกที
วันจันทร์ (17) ผู้ประท้วงที่อยู่ในแคมป์ที่มีการจัดการอย่างดีในบริเวณสวนสาธารณะซุคคอตติ ใกล้กับวอลล์สตรีท เริ่มเดือนที่ 2 ของการเคลื่อนไหว โดยมีแผนติดตามผลการประท้วงใหญ่ที่ครอบคลุมทั้วทั้งย่านไทม์สแควร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แคมป์ดังกล่าวไม่ได้มีแค่สิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับชุมชนที่พำนักกันกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตั้งแต่ที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือจนถึงห้องสมุด โดยดาร์เรลล์ ปรินซ์ ผู้จัดการชุมนุมที่อยู่ในส่วนคณะกรรมการการเงิน เผยว่าขณะนี้มีเงินบริจาคในมือ 275,000 ดอลลาร์
จากเว็บไซต์ www.occupywallst.org เป้าหมายใหญ่ถัดไปอาจเป็นวันเสาร์นี้ (22) ในวาระ “วันประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจแห่งชาติ”
ขบวนการนี้ส่งผลกระทบกว้างใหญ่ไพศาล จุดประกายการประท้วงในลักษณะคล้ายกันทั่วสหรัฐฯ และนานาประเทศ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ในยุโรป เพื่อเผยแพร่สาส์นเดียวกันคือ ความชิงชังที่มีต่อความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจระหว่างคนรวยเปอร์เซ็นต์เดียวกับคนจนอีก 99%
แม้จำนวนผู้ชุมนุมยังไม่มากมายนัก โดยการประท้วงใหญ่ที่สุดมีผู้เข้าร่วม 10,000-20,000 คน แต่ขบวนการนี้เริ่มเป็นที่สนใจของนักการเมืองอาวุโส เนื่องจากใกล้ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันปลายปีหน้าเข้าไปทุกที