นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด 223 อำเภอ 1,532 ตำบล 10,130 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 784,097 ครัวเรือน 2,388,286 คน มีผู้เสียชีวิต 269 ราย สูญหาย 4 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 7,528,805 ไร่
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก และระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ลุ่มน้ำเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 4,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,640 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประมาณน้ำไหลผ่านที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,388 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ศอส.ได้กำชับให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ป้องกันว่าอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งสามารถรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกต่อผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก และระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ลุ่มน้ำเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 4,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,640 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประมาณน้ำไหลผ่านที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,388 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ศอส.ได้กำชับให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ป้องกันว่าอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งสามารถรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกต่อผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร