ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ยึดทรัพย์นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย กับ บริษัท โฮ แปซิฟิค จำกัด ผู้คัดค้านที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นสถานบริการอาบอบนวด ในกรณีเปิดอ่างจูเลียน่า และฮอนโนลูลู และที่อื่นๆ ให้บริการผิดกฎหมายตามมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งเกิดเมื่อปี 2546-2547
โดยคดีดังกล่าวนั้น ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ทั้ง 2 ได้ยกคำร้อง ซึ่งศาลฎีกาได้พิเคราะห์ว่า มีพยานหลักฐานพบว่านายชูวิทย์ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีในสถานบริการทั้ง 2 แห่ง มีการให้บริการทางเพศกับแขก โดยหญิงบริการจะได้รับส่วนแบ่งคนละ 1,900 บาทต่อรอบ และทำงานวัน 3-5 รอบ และมีการฝึกหัดพนักงาน จำหน่ายถุงยางอนามัย ดังนั้น ข้อคัดค้านจึงฟังไม่ขึ้น ศาลแพ่งจึงพิพากษาว่า ให้ยึดทรัพย์จำนวน 3,470,000 บาท และออกคำบังคับต่อไป
โดยคดีดังกล่าวนั้น ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ทั้ง 2 ได้ยกคำร้อง ซึ่งศาลฎีกาได้พิเคราะห์ว่า มีพยานหลักฐานพบว่านายชูวิทย์ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีในสถานบริการทั้ง 2 แห่ง มีการให้บริการทางเพศกับแขก โดยหญิงบริการจะได้รับส่วนแบ่งคนละ 1,900 บาทต่อรอบ และทำงานวัน 3-5 รอบ และมีการฝึกหัดพนักงาน จำหน่ายถุงยางอนามัย ดังนั้น ข้อคัดค้านจึงฟังไม่ขึ้น ศาลแพ่งจึงพิพากษาว่า ให้ยึดทรัพย์จำนวน 3,470,000 บาท และออกคำบังคับต่อไป