นางสาวศิริลักษณ์ ดวงแก้ว รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า คณะผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ลงพื้นที่ทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อสำรวจว่ามีครัวเรือนใดเข้าหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท เบื้องต้นได้เร่งสำรวจพบมีครัวเรือนที่เข้าหลักเกณฑ์ 23,660 ครัวเรือน โดยเป็นครัวเรือนที่น้ำท่วมเกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งครัวเรือนที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว ได้นำหลักฐานภาพถ่าย สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน มายื่นกับผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้รับรองเรียบร้อยแล้ว โดยการสำรวจจะเริ่มตั้งแต่บ้านน้ำท่วมจนถึงวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาเป็นงวดแรก เพื่อให้ทันนำเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเงินในวันที่ 6 กันยายนนี้ หลังจากนั้นจะรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมหลักฐานตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้เรียบร้อย พร้อมให้ผู้นำชุมชนเป็นผู้รับรอง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในงวดต่อไป
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมารัฐบาลพบว่า มีผู้นำชุมชนทุจริต รับรองความเสียหายของลูกบ้านอย่างผิดพลาดจำนวนมาก ปีนี้จึงกำชับให้นายอำเภอสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับลูกบ้านในชุมชนถึงหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด
อย่างไรก็ตาม ยืนยันภายใน 1 สัปดาห์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 อย่างแน่นอน ส่วนกรณีบ้านเช่ารัฐบาลจะจ่ายเงินให้กับผู้เช่าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เช่นกัน
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมารัฐบาลพบว่า มีผู้นำชุมชนทุจริต รับรองความเสียหายของลูกบ้านอย่างผิดพลาดจำนวนมาก ปีนี้จึงกำชับให้นายอำเภอสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับลูกบ้านในชุมชนถึงหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด
อย่างไรก็ตาม ยืนยันภายใน 1 สัปดาห์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 อย่างแน่นอน ส่วนกรณีบ้านเช่ารัฐบาลจะจ่ายเงินให้กับผู้เช่าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เช่นกัน