ศธ.วางแผนจัดทำงบประมาณแบบใหม่บูรณาการแผนและยุทธศาสตร์ฯ ให้ตอบโจทย์การศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ ยึด 19 เขตพื้นที่ของสำนักนายกฯ รมว.ศธ.ย้ำ งบประมาณหลักๆ ยังอยู่ที่ส่วนกลาง แต่จะเปิดโอกาสให้เขตตรวจฯได้คิดยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนา เสนอต่อ คณะกรรมการที่ดูแลกำกับพิจารณา คาดทำเต็มรูปแบบได้ปีงบประมาณ 2556
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหาร องค์กรหลักของ ศธ.เพื่อเตรียมการเรื่องการจัดทำงบประมาณ ว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนดนโยบายการจัดการศึกษาให้ตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 โดยรูปแบบการทำงานนั้นเน้นการทำงานพื้นที่มากขึ้น หรือ Area Based Planing and Management เพราะต้องการส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ดังนั้น จึงได้มีการเรียกประชุมผู้บริหารทั้ง 5 องค์กรหลักและสำนักงบประมาณ เพื่อหาทางปรับการจัดสรรงบประมาณให้คล้องกับธงนำและรูปแบบการบริหารงานแบบเน้นพื้นที่
ทั้งนี้ จากการหารือได้ข้อสรุปว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการแผนและยุทธศาสตร์ทางด้านการศึกษา ซึ่งเป็น รมว.ศธ.เป็นประธาน ปลัด ศธ.เป็นเลขานุการ เพื่อดูแลการจัดสรรงบประมาณของ ศธ.ให้ตอบโจทย์เรื่องการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในการจัดสรรงบประมาณปี 2555 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำให้เสร็จและเสนอไปยังสำนักงบประมาณตามปฏิทินภายในเดือน ก.ย.
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน คือ จะมีหน่วยบริหารจัดการในพื้นที่แบบใหม่เกิดขึ้น โดยยึดตามเขตตรวจราชการของสำนักนายรัฐมนตรีที่มีทั้งหมด 19 เขต ซึ่งหมายความว่า สถานศึกษาและหน่วยงานทุกสังกัดในแต่ละเขตตรวจราชการ จะต้องทำงานบูรณาการทำงานร่วมกันโดยไม่มีการแบ่งแยกสังกัด เพื่อให้การจัดการศึกษาทุกระดับในพื้นที่ตอบสนองเศรษฐกิจในพื้นที่และการก้าวเข้าสู่ประชุมอาเซียน ที่สำคัญแต่ละเขตตรวจราชการจะต้องจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ และใช้ยุทธศาสตร์นั้นเป็นฐานในการขอจัดสรรงบประมาณ โดยมีคณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ทางด้านการศึกษา ซึ่งมีตัวแทนจากทุกองค์กรหลักในพื้นที่เข้าร่วม เป็นผู้กำกับดูแลในภาพรวม
“การดำเนินงานดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า ศธ.จะปรับการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดมาจัดสรรผ่าน 19 เขตตรวจราชการ เพราะงบประมาณหลักๆ อย่างเช่น งบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ยังตั้งอยู่ที่หน่วยงานหลักเหมือนเดิม เพียงแต่โครงการใดที่ไม่ตอบสนองนโยบาย ศธ.จะถูกปรับออกไป และเปิดโอกาสให้เขตบูรณาการได้คิดยุทธศาสตร์ของตัวเองและเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์นั้น ทั้งนี้ คาดว่า จะเริ่มบริหารจัดการตามแนวคิดใหม่นี้ได้เต็มตัวในปี 2556 ส่วนงบประมาณปี 2555 นั้น ต้องปล่อยไปก่อนแต่เลือกปรับในรายการที่พอจะปรับได้” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.กล่าวว่า การดำเนินการจะทำตามเขตตรวจราชการทั้ง 19 เขต ซึ่งในส่วนของศธ.มีเขตตรวจราชการทั่วประเทศทั้งหมด 13 เขต ซึ่งมีบางแห่งต้องรับผิดชอบมากกว่า 1 เขต โดยจากนี้ตนจะหารือร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลัก ของ ศธ. อีกครั้งเพื่อหาผู้รับผิดชอบภาพรวมในแต่ละเขต ทั้งนี้ สำหรับโครงการต่างๆ ของ ศธ.คงต้องมีการปรับให้เข้ากับนโยบาย ขณะเดียวกัน งานเก่าที่จำเป็นต้องทำหากไม่ทำจะเกิดผลกระทบกับผู้เรียนต้องเดินต่อ พร้อมกับต้องคิดใหม่เพื่อสนองนโยบาย รมว.ศธ.ด้วย
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหาร องค์กรหลักของ ศธ.เพื่อเตรียมการเรื่องการจัดทำงบประมาณ ว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนดนโยบายการจัดการศึกษาให้ตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 โดยรูปแบบการทำงานนั้นเน้นการทำงานพื้นที่มากขึ้น หรือ Area Based Planing and Management เพราะต้องการส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ดังนั้น จึงได้มีการเรียกประชุมผู้บริหารทั้ง 5 องค์กรหลักและสำนักงบประมาณ เพื่อหาทางปรับการจัดสรรงบประมาณให้คล้องกับธงนำและรูปแบบการบริหารงานแบบเน้นพื้นที่
ทั้งนี้ จากการหารือได้ข้อสรุปว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการแผนและยุทธศาสตร์ทางด้านการศึกษา ซึ่งเป็น รมว.ศธ.เป็นประธาน ปลัด ศธ.เป็นเลขานุการ เพื่อดูแลการจัดสรรงบประมาณของ ศธ.ให้ตอบโจทย์เรื่องการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในการจัดสรรงบประมาณปี 2555 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำให้เสร็จและเสนอไปยังสำนักงบประมาณตามปฏิทินภายในเดือน ก.ย.
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน คือ จะมีหน่วยบริหารจัดการในพื้นที่แบบใหม่เกิดขึ้น โดยยึดตามเขตตรวจราชการของสำนักนายรัฐมนตรีที่มีทั้งหมด 19 เขต ซึ่งหมายความว่า สถานศึกษาและหน่วยงานทุกสังกัดในแต่ละเขตตรวจราชการ จะต้องทำงานบูรณาการทำงานร่วมกันโดยไม่มีการแบ่งแยกสังกัด เพื่อให้การจัดการศึกษาทุกระดับในพื้นที่ตอบสนองเศรษฐกิจในพื้นที่และการก้าวเข้าสู่ประชุมอาเซียน ที่สำคัญแต่ละเขตตรวจราชการจะต้องจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ และใช้ยุทธศาสตร์นั้นเป็นฐานในการขอจัดสรรงบประมาณ โดยมีคณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ทางด้านการศึกษา ซึ่งมีตัวแทนจากทุกองค์กรหลักในพื้นที่เข้าร่วม เป็นผู้กำกับดูแลในภาพรวม
“การดำเนินงานดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า ศธ.จะปรับการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดมาจัดสรรผ่าน 19 เขตตรวจราชการ เพราะงบประมาณหลักๆ อย่างเช่น งบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ยังตั้งอยู่ที่หน่วยงานหลักเหมือนเดิม เพียงแต่โครงการใดที่ไม่ตอบสนองนโยบาย ศธ.จะถูกปรับออกไป และเปิดโอกาสให้เขตบูรณาการได้คิดยุทธศาสตร์ของตัวเองและเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์นั้น ทั้งนี้ คาดว่า จะเริ่มบริหารจัดการตามแนวคิดใหม่นี้ได้เต็มตัวในปี 2556 ส่วนงบประมาณปี 2555 นั้น ต้องปล่อยไปก่อนแต่เลือกปรับในรายการที่พอจะปรับได้” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.กล่าวว่า การดำเนินการจะทำตามเขตตรวจราชการทั้ง 19 เขต ซึ่งในส่วนของศธ.มีเขตตรวจราชการทั่วประเทศทั้งหมด 13 เขต ซึ่งมีบางแห่งต้องรับผิดชอบมากกว่า 1 เขต โดยจากนี้ตนจะหารือร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลัก ของ ศธ. อีกครั้งเพื่อหาผู้รับผิดชอบภาพรวมในแต่ละเขต ทั้งนี้ สำหรับโครงการต่างๆ ของ ศธ.คงต้องมีการปรับให้เข้ากับนโยบาย ขณะเดียวกัน งานเก่าที่จำเป็นต้องทำหากไม่ทำจะเกิดผลกระทบกับผู้เรียนต้องเดินต่อ พร้อมกับต้องคิดใหม่เพื่อสนองนโยบาย รมว.ศธ.ด้วย
