"พิชัย"ยันส่วนต่างเบนซิน-โซฮอล์เหมาะสม จ่อเก็บภาษี LPG

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงนโยบายรัฐบาลที่ได้ชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ของน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า ถึงวันนี้ความกังวลในเรื่องส่วนต่างของราคาน้ำมันเบนซินกับโซฮอล์ ที่จากเดิมห่างกันไม่ถึงบาท วันนี้ส่วนต่างได้ห่างกันอยุ่ที่ 3 บาทกว่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแล้ว จึงอยากเชิญชวนประชาชนผู้ใช้น้ำมัน ให้หันมาช่วยกันใช้เบนซินแก๊สโซฮออล์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย มันสำปะหลัง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในต่างประเทศหลายประเทศ มีราคาน้ำมันเบนซินโซฮอล์ที่ราคาแพงกว่าไทยมาก และประชาชนก็มีจิตสำนึกที่จะใช้แก๊สโซฮอล์กันอย่างมาก การที่รัฐบาลลดราคาน้ำมันลงขนาดนี้ ก็เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้ใช้น้ำมันสิ้นเปลือง อยากขอให้ช่วยกันใช้น้ำมันอย่างประหยัดกันด้วย
ทั้งนี้ มาตรการลดราคาน้ำมันช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนในระยะสั้นคาดว่าไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจะต้องรอดูสถานการณ์หลังรัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว โดยเบื้องต้นการดำเนินนโยบายดังกล่าวนี้ ทำให้กองทุนฯ ติดลบไปแล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท และในอนาคตจะมีการเรียกเก็บเงินกลับคืนเข้ากองทุนฯ
ส่วนเรื่องของการลอยตัวก๊าซแอลพีจี อนาคตดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด รวมถึงการจัดเก็บภาษีพลังงานทุกชนิด เนื่องจากราคาก๊าซแอลพีจีตอนนี้ ถ้าเปรียบเทียบประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนาม กัมพูชา และลาวแล้ว จะเห็นว่าประเทศไทยมีราคาถูกสุด เช่น ไทยขายที่ราคา 18 บาทกว่าต่อกิโลกรัม แต่เวียดนามขาย 46 บาทต่อกิโลกรัม ถึงได้ทำให้เกิดกองทัพมดขนก๊าซแอลพีจีไปขายในประเทศเพื่อนบ้านมากมาย เพราะฉะนั้น การแก้ปัญหาด้วยการปรับโครงสร้างพลังงานใหม่ทั้งหมด จะช่วยให้ปัญหาต่างๆ หมดไป