“พิชัย” ยัน รบ.ไม่นิ่งนอนใจ “พลังงานทดแทน” พร้อมลงมือเร่งแก้ปัญหาส่วนต่างราคา “โซฮอล์-เบนซิน” โดยเร็วที่สุด ตามบัญชานายกฯ ย้ำตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์กับราคาน้ำมันเบนซินธรรมดาโดยเร็วที่สุด ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเมื่อเช้านี้ หลังมีการปรับลดเงินจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซิน และดีเซล โดยเบื้องต้นจะมีการประชุมคณะทำงานเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด
สำหรับการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ตนเอิงได้สั่งให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ปรับลดราคาแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 60 สตางค์ มีผลในวันพรุ่งนี้ เพื่อขยายส่วนต่างในระดับหนึ่งก่อน ส่วนข้อเสนอแนะที่ว่าส่วนต่างระหว่างแก๊สโซฮอล์กับน้ำมันเบนซินควรจะอยู่ที่ 2.50 บาทต่อลิตร ถือเป็นข้อเสนอทางเลือกหนึ่ง แต่คงต้องไปดูรายละเอียดให้ครบทุกด้านแล้วค่อยหาตัวเลขที่เหมาะสมออกมา
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่า การปรับลดเงินเข้ากองทุนน้ำเป็นนโยบายช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้น แต่ในระยะยาว รัฐบาลยังยืนว่าจะส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และจะเป็นนโยบายหลักที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานทดแทน
ส่วนเรื่องกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา สมัยเลห์แมน บราเธอร์ล้มละลาย แต่การดำเนินการต้องรับฟังความคิดเห็นต่างๆ และทุกภาคส่วนสามารถมีข้อเสนอแนะออกมาได้
นายพิชัยกล่าวว่า การลงทุนในแหล่งพลังงาน ถือเป็นทางเลือกเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศในระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานเป็นหลัก เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่หากประเทศไทยเกิดสภาวะไม่สามารถจัดหาแหล่งพลังงาน แหล่งน้ำมัน แหล่งไฟฟ้าได้ แต่เรายังสามารถมีแหล่งพลังงานได้เพียงพอต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศไทย