“พลังงาน” ยันปรากฏการณ์ ปชช.แห่เติมน้ำมัน แค่แตกตื่นระยะสั้น เพราะราคาปรับลงมากจนเร้าใจ เชื่อผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ไม่เปลี่ยนใจไปเติมเบนซิน มั่นใจไม่ขาดแคลนแน่นอน ส่วนปัญหาน้ำมันเกลี้ยงปั๊ม เมื่อวานนี้ เพราะบางแห่งไม่ได้เตรียมสำรองไว้ล่วงหน้า ชี้ เร็วเกินไปที่จะตัดสินว่า นโยบายลดราคาเบนซินกระทบเอทานอล “บิ๊ก ปตท.” เผยยอดขาย เบนซิน 91 กระฉูด ยันอัดสำรองรับดีมานด์เอาไว้เต็มปั๊ม สั่งเพิ่มหัวจ่าย และจำนวนสถานีบริการ “คลัง” เตรียมต่ออายุ มาตรการดีเซล 30 บาท
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ประชาชนแห่เติมน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล จนทำให้สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งมีปัญหาขาดแคลนน้ำมันเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) โดยเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ระยะสั้น เพราะประชาชนตื่นตัวกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาล ลดการจัดเก็บเงินเข้าเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมัน 3 ชนิด ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงถึง 8 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ลดลง 7.17 บาทต่อลิตร และดีเซล ลดลง 3 บาทต่อลิตร
ส่วนประชาชนที่หันไปเติมน้ำมันเบนซินแทนแก๊สโซฮอล์นั้น พบว่า ปริมาณการใช้ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก โดยยังคงมีการใช้เบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 ล้านลิตรต่อวันเท่าเดิม พร้อมระบุว่า สาเหตุที่มีบางสถานีบริการน้ำมันไม่สามารถเปิดขายน้ำมันได้ เพราะไม่มีการเตรียมสำรองน้ำมันไว้ล่วงหน้า แต่ยืนยัน น้ำมันไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ สนพ.เร่งติดตามสถานการณ์การใช้น้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแผนส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า นโยบายลดราคาน้ำมัน มีผลกระทบต่อปริมาณการใช้เอทานอลที่เป็นส่วนผสมในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เพราะเชื่อว่า ยังมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่คุ้นเคยกับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์มาระยะหนึ่ง จะยังเห็นความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือเกษตรกร
สำหรับปัญหาส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ กับน้ำมันเบนซินที่แคบลงนั้น ทาง สนพ. ได้เตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไว้แล้ว เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนจะมีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล
ด้าน นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปตท.มีสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายเบนซิน 91 จำนวน 1,097 แห่ง จากสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด 1,309 แห่งทั่วประเทศ โดยยอมรับว่า ยอดจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 เพิ่มสูงขึ้นมากจากยอดการจำหน่ายปกติ ที่มีการจำหน่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 ล้านลิตรต่อวัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ค้ามีการลดระดับการสำรองน้ำมันในถังและสั่งซื้อเข้ามาในปริมาณมากในคืนก่อนปรับลดราคา จึงทำให้การขนส่งในช่วงเช้าวานนี้อาจล่าช้าไปบ้าง แต่คาดว่า วันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ ปตท.มีปริมาณสำรองน้ำมันเบนซิน 91 อยู่ประมาณ 45 ล้านลิตร ซึ่งเพียงพอกับปริมาณความต้องการ และยังเตรียมดำเนินการเพิ่มหัวจ่ายน้ำมันและจำนวนสถานีบริการน้ำมันเบนซิน 91 ให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอ ไม่เกิดภาวะขาดแคลน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ด้าน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้ากรมสรรพสามิตจะหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อขอขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลน้ำมันที่ลดเหลืออัตราการจัดเก็บอยู่ที่ 0.005 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้ โดยจะดูพิจารณาสถานการณ์เดือนต่อเดือน หากยังไม่เหมาะสมก็จะยืดต่อไปทุกเดือนจนกว่าราคาน้ำมันจะไม่เป็นภาระกับประชาชน
สำหรับการลดภาษีน้ำมันดีเซลจะทำให้รายได้กรมสรรพสามิตหายไปเดือนละ 9,000 ล้านบาท และการลดภาษีโดยที่ไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนจะกระทบกับการประเมินรายได้ในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งลดภาษีทั้งปี ก็จะทำให้รายได้หายไป 100,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะหารือเพื่อลดภาษีน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ที่เก็บอยู่ที่ 6.30 บาทต่อลิตร ให้ลดลงประมาณ 1.50 บาทต่อลิตร ขณะเดียวกัน จะเสนอให้ปรับเพิ่มภาษีเบนซินเป็น 10 บาทต่อลิตร จากที่เก็บอยู่ที่ 7 บาท เพื่อให้มีส่วนต่างราคาขายปลีกร้อยละ 20-30 เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการใช้พลังงานทางเลือก
นายพงษ์ภาณุ ยอมรับว่า ไม่สามารถปรับลดภาษีแก๊สโซฮอล์เพียงอย่างเดียวได้ เพราะจะกระทบการจัดเก็บรายได้ของกรมเพิ่มขึ้น ซึ่งในภาพรวมการจัดเก็บรายได้น้ำมันควรจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 7-10 ของรายได้รัฐบาลโดยรวม
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า จะต้องชี้แจงให้กระทรวงพลังงานเข้าใจว่าการลดภาษีระยะยาวมากเกินไปจะมีผลกระทบอย่างน้อย 4 ด้าน คือ 1.กระทบต่อรายได้รัฐ 2.ทำให้มีการใช้น้ำมันมาก สั่งนำเข้าเพิ่ม มีผลต่อดุลการค้าและดุลชำระเงินของประเทศ 3.มีปัญหาต่องบประมาณซ่อมแซมถนน และ 4.ผลต่อสิ่งแวดล้อม
“รู้สึกกังวลการบิดเบือนการใช้น้ำมันและพฤติกรรมการใช้น้ำมัน การลดภาษีดีเซลช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-4”
ขณะที่การยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุน ทำให้มีคนไปใช้น้ำมันเบนซิน 91 และ 95 จนหมดสถานี ซึ่งกรมสรรพสามิตต้องเข้าไปดูแลผู้ผลิตเอทานอลที่มีส่วนเกิน โดยวันที่ 29 สิงหาคม 2554 นี้ จะประชุมผู้บริหาร เพื่อแก้ระเบียบกรมสรรพสามิตให้ผู้ส่งออกเอทานอลได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิตเอทานอลรายย่อย